Doppelgangers

                 ในสมัยที่ผมเรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยใหม่ ๆ

ผมเคยเข้าไปสมัครงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง

เป็นบริษัทขนาดเล็ก เพราะฉะนั้นแล้วคนทุกคนในบริษัทนี้จึงรู้จักกัน

คุ้นหน้ากันดี วันหนึ่งในเวลาที่เย็นมากแล้วประมาณเกือบทุ่ม

ซึ่งตอนนี้ผมยังไม่ได้กลับบ้านมีพนักงานในบริษัทคนหนึ่งมองเห็น

พนักงานในบริษัทที่เป็นเพื่อนร่วมงานหญิงกำลังยืนกดน้ำดื่มอยู่

จึงทักไป ปรากฎว่าเพื่อนร่วมงานหญิงคนนั้นเพิกเฉย

ไม่ตอบอะไรและไม่หันกลับมามองด้วย

พนักงานคนที่ทักนี้จึงไม่สนใจอะไรและกลับเดินไปยังโต๊ะทำงานของ

ตัวเองและบอกกับเพื่อนร่วมงานโต๊ะข้าง ๆ

ว่าเมื่อสักครู่เห็นเพื่อนร่วมงานหญิงคนดังกล่าวกำลังกดน้ำดื่มอยู่

เพื่อนร่วมงานที่นั่งโต๊ะ้ข้าง ๆ

บอกว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไรก็ในเมื่อพนักงานหญิงคนที่กล่าวนี้ได้

กลับบ้านไปตั้งแต่ตอนเลิกงานเมื่อ 5 โมงเย็นแล้ว

ซึ่งเขาก็เห็นด้วยตาตนเองว่าพนักงานคนหญิงคนนี้เดินออกนอก

ออฟฟิตไป พนักงานชายคนนี้บอกว่าเขาเห็นอย่างนั้นจริง ๆ

แล้วเดินกลับไปดูจุดที่เห็นพนักงานหญิงคนนั้นกดน้ำดื่มอยู่

ปรากฎว่าไม่พบพนักงานหญิงคนนี้แล้ว

และในออฟฟิตก็ไม่ปรากฎว่าเหลือพนักงานหญิงแม้แต่คนเดียว

เรื่องนี้สร้างความสงสัยพอสมควรแต่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรนัก

พรุ่งนี้ค่อยถามพนักงานหญิงคนนี้ตอนมาทำงานก็คงได้คำตอบ

ในวันรุ่งขึ้นพนักงานหญิงคนที่ว่านี้มาทำงานตามปกติ

พนักงานชายคนที่เห็นพนักงานหญิงคนนี้กดน้ำดื่มเมื่อวานตอนค่ำ

จึงเดินเข้าไปสอบถาม และเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง

แต่พนักงานหญิงคนนี้ก็ยืนยันไปตามจริงว่าเมื่อวานเธอได้ออกจาก

บริษัทไปตั้งแต่ตอนเลิกงาน 5 โมงเย็นจริง

จะเป็นไปได้อย่างไรว่าจะมีใครมาเห็นเธออยู่ในบริษัทตอนทุ่มได้

ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ทรัพย์สินในบริษัทอยู่ครบถ้วนไม่สูญหาย

เรื่องนี้จึงเก็บเป็นปริศนาและถูกลืมไป

          เหตุการณ์ที่ปรากฎว่ามีบุคคลสองคนที่เหมือนกันทุกประการ

โดยที่บุคคลทั้งสองไม่ได้มีความเป็นเครือญาติพี่น้อง

หรือแม้แต่จะเป็นฝาแฝดเหมือน ปรากฎตัวขึ้นคนละสถานที่

ซึ่งสถานที่ที่ว่านี้อาจจะอยู่ใกล้ ๆ กันหรืออยู่ห่างไกลกัน

และบุคคลทั้งสองนี้ถูกบุคคลอื่นที่รู้จักกับบุคคลนี้เป็นอย่างดี

พบเห็นและจำได้อย่างแม่นยำว่า

บุคคลทั้งสองที่พบเห็นนั้นเป็นบุคคลเดียวกันอย่างแน่นอนที่สุด

ภาษา่อังกฤษเรียก Exactly the same

เหตุการณ์ที่ผมเคยประสบไม่ใช่เหตุการณ์แรก

แต่เหตุการณ์นี้มีบันทึกทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

ไม่สามารถหาข้อสรุปอย่างถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ว่าเกิดขึ้น

มาได้อย่างไร

เหตุการณ์ที่ว่านี้ในภาษาไทยยังไม่ได้มีการบัญญัติำคำ บัญญัติศัพท์

แต่ว่าในภาษาอังกฤษ มี

เหตุการณ์ลักษณะนี้ในภาษาอังกฤษเรียกว่าเป็น

"Doppelgangers"

คำคำนี้มีรากศัพท์มาจากภาษาเยอรมันแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า

"Double Walker"

Noun : An apparition or double of a living person

         สำหรับคนไทยเหตุการณ์ "Doppelgangers"

มักจะเกิดกับคนที่ใกล้จะถึงกาลอวสานของชีวิต อาการหนักเข้าขั้น

"ตรีทูต"

จะมีเรื่องเล่าว่าเหตุบุคคลที่ไม่ทางเป็นไปได้ที่จะลุกขึ้นมายืนเดิน

ไปปรากฎตัวอยู่ตามที่ต่าง ๆ เช่นอยู่บริเวณใกล้ ๆ บ้านเขาเอง

เห็นยืนอยู่หน้าบ้าน ผู้คนที่รู้จักพบเห็นทักไปก็ไม่ตอบ

แต่โดยจริงบุคคลคนนี้กำลังนอนป่วยหนักอยู่บนบ้าน

เหตุการณ์ "Doppelgangers"

สำหรับคนไทยถือว่าเป็นลางบอกเหตุที่ไม่สู้จะดีนัก

เป็นไปได้ว่าจะมีการสูญเสียเกิดขึ้น

        เหตุการณ์ "Doppelgangers"

ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศมีบันทึกถูกบันทึกไว้เช่นกันว่ามีจริงหรือเคย

เกิดขึ้นมาจริง เหตุการณ์ "Doppelgangers" ที่ดัง ๆ เลย

มีผู้คนพบเห็นอยู่ในเหตุการณ์จำนวนมากและเชื่อถือได้

เพราะว่าบุคคลที่เห็นและอยู่ในเหตุการณ์นี้เป็นเด็กนักเรียนใน

โรงเรียน

ก็คือเหตุการณ์ของคุณครูสุภาพสตรีคนหนึ่งซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศษ

ุคุณครูสุภาพสตรีท่านนี้มีชื่อว่าคุณครู Emilie Sagée

        ในปี ค.ศ.1845 คุณครู Emilie Sagée ตอนนั้นเธออายุ 32 ปี

เธอได้งานใหม่ในโรงเรียนสตรีแห่งหนึ่ง

ซึ่งโรงเรียนสตรีแห่งนี้ถือเป็นโรงเรียนสตรีมีระดับทีเดียวในยุคสมัย

นั้น ชื่อโรงเรียน Pensionat Von Neuwelcke

โรงเรียนสตรีแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมือง Wolmar

ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้อยู่ในเขตแดนประเทศลัตเวีย

จากประวัติการทำงานของคุณครู Emilie Sagée ย้อนหลังไป 16 ปี

เธอเปลี่ยนงานมากถึง 19 ครั้งในอาชีพครูซึ่งเป็นอาชีพที่เธอรัก

ซึ่งนั่นมันก็เป็นเรื่องที่แปลกมาก

เพราะว่าจากประวัติการผ่านงานของเธอแล้วเธอมีประวัติการทำงาน

ในหน้าที่ครูที่ดีมากทีเดียว ถูกระบุว่าเป็นคนใจดี

มีความอดทนในการทำงาน

และเป็นที่รักของลูกศิษย์รวมทั้งเพื่อนร่วมงานด้วย 

      คนที่นำเรื่องนี้มาถ่ายทอดชื่อว่าคุณ Julie Von Guldenstubbe

เธอคนนี้ในเวลานั้นอายุ 13 ปี

ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลทีอยู่ในเหตุการณ์ "Doppelgangers"

ของคุณครู Emilie Sagée

เธอคนนี้นำเรื่องนี้มาถ่ายทอดให้กับนักเขียนคนหนึ่งที่ชื่อว่าคุณ

Robert Dale Owen ซึ่งสุดท้ายเรื่องนี้จึงถูกตีพิมพ์ขึ้น

     แรกสุดที่ "Doppelgangers" ของคุณครู Emilie Sagée

ปรากฎขึ้นและมีนักเรียนพบเห็นจะเป็นวันหนึ่งที่คุณครูกำลังสอน

นักเรียนอยู่ในห้องเรียน วันนั้นในห้องเรียนมีนักเรียนอยู่ 13 คน

  คุณครู Emilie Sagée

กำลังหันหลังให้กับนักเรียนและเขียนหนังสือบนกระดานดำอยู่

แล้วอยู่ ๆ

สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเพราะว่ามีคนอีกคนที่มีลักษณะเหมือน

กันกับคุณครู Emilie Sagée

ทุกประการปรากฎขึ้นและเขียนหนังสือบนกระดานดำอีกฝั่งหนึ่ง

ลักษณะรูปร่างท่าทางการเขียนหนังสือเหมือนกันกับคุณครู Emilie Sagée

ทุกประการยกเว้นแต่ว่าในมือของครู Emilie Sagée

อีกคนไม่ได้ถือช็อคอยู่

     เหตุการณ์ถัดมาก็คือในขณะที่ครู Emilie Sagée

อยู่ในโรงอาหารเธอกำลังรับประทานอาหารอยู่ มีเด็กนักเรียน

มองเห็นว่ามีครู Emilie Sagée อีกคน อยู่ข้างหลังครูตัวจริง และก็ทำท่าเลียนแบบ

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ครู Emilie Sagée ทำอยู่ คือตักอาหารเข้าปาก ขยับท่าทาง เพียงแต่สิ่งที่ดูแปลกก็คือ

ในมือของครู Emilie Sagée อีกคนไม่พบว่าถือช้อนหรืออุปกรณ์ในการรับประทานอาหารใด ๆ เลย

ซึ่งดูเหมือนในเวลานั้นมีครูที่เป็นเพื่อนร่วมงานคนอื่นเห็นเหตุการณ์นี้ด้วย 

    อยู่ต่อ ๆ มาชักหนักขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่ามีทั้งครูทั้งเด็กนักเรียนพบเห็นว่า

มีครู Emilie Sagée สองคนปรากฎอยู่ในโรงเรียนนี้ตามที่ต่าง ๆ และที่ว่าหนักขึ้น

เรื่อย ๆ ก็เพราะว่าครู Emilie Sagée คนที่สองนี้ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่แ่ค่ลอกเลียนแบบ

ท่าทางของครู Emilie Sagée ต้นฉบับแต่อย่างเดียวแต่ดูเหมือนจะมีชีวิตจิตใจ

สามารถทำสิ่งอื่นได้ โดยที่ไม่เหมือนกันกับที่ ครู Emilie Sagée ตัวจริงเสียงจริง

กำลังทำอยู่ มีคนเคยถามครู Emilie Sagée ว่าเธอรู้ตัวบ้างไหมว่าเธอเป็นคนที่แปลก ๆ 

อยู่นะ ครู Emilie Sagée บอกว่าเธอเองไม่รู้ตัวเลยและตัวเธอเองก็ไม่เคยเห็น

"Doppelgangers" ของตัวเธอเองด้วย แต่เธอจะมีความคิดว่ากำลังอยากจะไปทำ

สิ่งนั้นสิ่งนี้ แล้วก็ปรากฎ "Doppelgangers" กำลังทำอย่างนั้นจริง ๆ ในสิ่งที่เธอ

กำลังคิดอยู่

      ก็อีกเหตุการณ์หนึ่ง

ครั้งนี้มีนักเรียนอยู่ในห้องมากถึงสี่สิบกว่าคน 

ชั่วโมงนั้นเป็นการสอนวิชาเย็บปักถักร้อย ครู Emilie Sagée มอบหมายงาน

ให้เด็กนักเรียนทำ จากนั้นก็เดินออกไปจากห้องเพื่อไปช่วยเด็กนักเรียนคนหนึ่ง

เก็บดอกไม้เพื่อจะนำมาประกอบการสอนในห้อง

       ทันทีที่ครู Emilie Sagée เดินออกนอกห้องเรียนไป ก็ปรากฎว่ามี

ครู Emilie Sagée อีกคนเดินเข้ามาในห้องแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ของครู Emilie Sagée

ซึ่งอยู่หน้าห้องเรียน ไม่พูดจาอะไร คล้ายกับเข้ามาคุมการเรียนการสอนของเด็ก

ในห้องเรียน มีเด็กนักเรียนหลายคนมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วอุทานขึ้นว่า

ครู Emilie Sagée อยู่ในสวนกำลังเก็บดอกไม้อยู่นั่น เด็กนักเรียนทุกคนมองออกไป

นอกหน้าต่างแล้วเห็นเช่นนั้นจริง ๆ มีนักเรียนหญิงสองคนซึ่งใจกล้ามาก ๆ เดิน

มาที่หน้าชั้นเีรียนตรงมาที่เก้าอี้ที่ครู Emilie Sagée นั่งอยู่ จากนั้นแล้วนักเรียนสองคนที่ว่านี้

ก็ ยื่นมือไปที่บริเวณหน้าอกของครูเจตนาเพื่อที่ตรวจสอบครู Emilie Sagée

คนที่สองนี้ว่าคืออะไร นักเรียนทั้งสองให้ปากคำว่า ครู Emilie Sagée คนนี้

มีลักษณะเหมือนครู Emilie Sagée คนที่อยู่นอกห้องทุกประการ แต่ตอนที่ยื่นมือ

จะเข้าไปจับครู Emilie Sagée ที่อยู่ในห้องคนนี้ปรากฎว่ามือของเธอผ่านทะลุ

ร่างกายของครู Emilie Sagée คนนี้ไปได้ นักเรียนคนนี้ให้การว่าลักษณะครู Emilie Sagée คนนี้ "Felt empty, Like the stuff cobwebs are made of" หรือแปลได้ว่าว่างเปล่าแต่

ลักษณะคล้ายใยแมงมุมทึบ ๆ แปลกเหลือเกินที่ว่าครู Emilie Sagée กลับจะไม่เคย

เจอหรือรู้ตัวเรื่องนี้เลย แต่คนอื่นกลับพบเห็นบ่อยจนเหลือที่จะเชื่อได้ ก็ภายหลังที่

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแล้ว มีคนนำเรื่องนี้ไปบอกกับครู Emilie Sagée คุณครูท่าน

บอกว่าในความคิดจริง ๆ แล้วเธอคิดว่าจะเข้ามาสอนในห้องมากกว่าออกไปเก็บดอกไม้

ในสวน ซึ่งตรงนี้คล้าย ๆ กับว่ากายทิพย์ของเธอออกมาทำหน้าที่แทน

    มีครูท่านหนึ่งพักอาศัยอยู่ในห้องเดียวกันกับครู Emilie Sagée

ก็พบเห็นเหตุการณ์แปลก ๆ เช่นกัน

กล่าวว่าบางคืนก็พบเห็นครู Emilie Sagée

เป็นลักษณะกลุ่มควันสีเขียว ก็เคยปรากฎในห้องนอน

กลุ่มควันนี้ลอยอยู่เหนือครู Emilie Sagée ที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่

ในวันรุ่งขึ้นก็เล่าเรื่องนี้ให้ครู Emilie Sagée

ฟังกับเรื่องที่พบเห็นเมื่อคืน ครู Emilie Sagée

บอกว่าเธอเองเมื่อคืนฝันไปว่า

กำลังลอยอยู่เหนือตัวเธอเอง และจ้องมองมาที่ร่างกายของเธอเองอยู่ 

       เรื่องนี้ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ

จนกระทั่งไปเข้าหูของพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กนักเรียน

ข้อร้องเรียนจากผู้ปกครองเด็กนักเรียน

ถูกส่งมาถึงครูใหญ่ของโรงเรียนนี้อธิบายถึงสิ่งที่บุตรหลานตนเองประสบ

ก็ไม่ได้มีการทำโทษหรือลงโทษใด ๆ เพราะว่าครู Emilie Sagée เองก็ไม่ได้กระทำ

ความผิดอะไร ไม่ปรากฎความผิดหรือบกพร่อง พ่อแม่ผู้ปกครองเด็กก็เลยทยอยกันนำ

บุตรหลานตนเองออกจากโรงเรียนแห่งนี้เพื่อไปหาที่เรียนแห่งใหม่ 

      สุดท้ายฝ่ายบริหารของโรงเรียนหมดทางเลือกเพื่อจะรักษาโรงเรียนนี้ไว้

ต่อไป จำเป็นต้องยุติบทบาท ยกเลิกสัญญาจ้างของครู Emilie Sagée ซึ่งเรื่องราว

ของครูที่ชื่อว่า Emilie Sagée ก็หมดลงเท่านี้ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากออกจากงาน

แห่งนี้แล้ว เธอไปไหนต่อหรือไปสอนหนังสือที่ไหนต่อ ไปทำงานอย่างอื่นหรือไม่

ช่วงชีวิตสุดท้ายของเธอเป็นเช่นไรไม่ปรากฎ เพราะว่าคนที่นำมาถ่ายทอดในเวลานั้น

ก็คือเด็กนักเรียนอายุ 13 ปีคนหนึ่งเท่านั้นไม่สามารถรู้อะไรได้มากกว่านี้

เหตุการณ์ "Doppelgangers"

ที่เกิดกับบุคคลสำคัญคนอื่นในอดีตมีเช่นกัน ตามประวัติที่เล่ามา

   ท่านประธานาธิบดี Abraham Lincoln

ท่านเล่าว่าตัวท่านเองเคยประสบกับเหตุการณ์แปลก ๆ

ก็คือมีอยู่วันหนึ่งตอนที่ได้เคยได้รับการเลือกตั้งมาแล้ว

ท่านประธานาธิบดีนั่งพักผ่อนอยู่บนโซฟาตัวหนึ่ง

ข้างหน้าโซฟาตัวนี้มีกระจกบานหนึ่งค่อนข้างใหญ่วางอยู่

ท่านมองผ่านเข้าไปในกระจก

แต่ภาพที่แปลกก็คือมีคนอีกคนหนึ่งในกระจกที่คล้ายกับท่านมาก ๆ

นั่งอยู่ข้าง ๆ ท่านเอง คน ๆ นี้่ท่านพิจารณาดี ๆ

แล้วพบว่าก็ไม่น่าจะเป็นใครอื่น แต่เป็นตัวท่านเองนั่นละ

เพียงแต่ว่าเป็นร่างที่มีร่างกายซูบผอมกว่าและดูซีด ๆ

ท่านประธานาธิบดีนำเรื่องที่เห็นนี้ไปเล่าให้ภรรยาท่านฟัง

ภรรยาท่านประธานาธิบดีฟังแล้วตกใจเป็นอย่างยิ่ง

กล่าวกับท่านประธานาธิบดีว่า นี่เป็นนิมิตที่ไม่ดีมาก ๆ

ซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริง

เพราะว่าท่านประธานาธิบดีภายหลังที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นครั้งที่

สองท่านก็เสียชีวิตลง จากการถูกลอบสังหาร

เพราะฉะนั้นแล้วจากประสบการณ์ของคนที่เจอกับ 

"Doppelgangers" หากผู้นั้นมองเห็น "Doppelgangers"

ของตัวเองแล้ว จะเป็นลางที่ไม่ดีเป็นอย่างยิ่ง

ไม่เหมือนกับกรณีของคุณครู Emilie Sagée

ที่คุณครูอย่างไรก็ยืนยันกับผู้อื่น่่ว่าเธอเองไม่เคยพบเห็น 

"Doppelgangers" ของเธอเองแม้แต่ครั้งเดียว คนที่เห็นส่วนใหญ่ทั้งหมด

เป็นบุคคลอื่นแทบทั้งสิ้น ชีวิตของคุณครู Emilie Sagée อายุยืนอยู่ได้นาน

ปลอดภัยโดยตลอด

อีกกรณีที่เกิดปรากฎการณ์ "Doppelgangers" ขึ้นแล้วเจ้าตัวไปประสบพบเห็น

"Doppelgangers" ของตัวเอง สุดท้ายต้องเกิดความสูญเสียขึ้นก็คือกรณี

ของสมเด็จพระนางเจ้าแคทเธอรีนมหาราชินีแห่งรัสเซีย 

คืนหนึ่งในปีค.ศ. 1796 พระนางถูกปลุกขึ้นโดยหญิงที่ทำหน้าที่ให้การดูแลใน