Foo Fighters, Kraut Fireballs
ท่านครับ ในสมัยช่วงของสงครามโลกครั้งที่ 2 (World War II)
เครื่องบินรบของฝ่ายสัมพันธมิตรพบเห็นวัตถุแปลก ๆ
บนท้องฟ้าของฝ่ายอักษะเยอรมันนีกันมาก ๆ เลยครับ
วัตถุนี้ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าคืออะไรกันแน่
จากประสบการณ์ของนักบินที่พบก็คือมันเป็นวัตถุกลม ๆ
ที่มีแสงสว่างในตัวเอง(Glowing Ball) บางครั้งก็พบเดี่ยว ๆ
บางครั้งก็พบเป็นกลุ่ม
มักจะบินเข้าหาเครื่องบินของฝ่ายสัมพันธมิตรด้วยความเร็วสูง
บางประสบการณ์ก็กล่าวว่าหากบินเข้าไปใกล้มันจะทำให้เครื่องเกิดการ
ขัดข้องได้ ในช่วงเวลานั้น
นักบินเข้าใจว่าสิ่งที่พบเห็นนี้เป็นหนึ่งในอาวุธสุดไฮเทคของฝ่ายอักษะคือ
เยอรมันนีและญี่ปุ่น
แต่ร้ายยิ่งกว่านั้นก็คือทางนักบินของฝ่ายอักษะก็พบเห็นวัตถุชนิดเดียวกัน
นี้บนท้องฟ้าเช่นเดียวกัน
และก็รายงานกล่าวอ้างว่าวัตถุชนิดนี้เป็นอาวุธของฝ่ายสัมพันธมิตร
วัตถุที่พบเห็นในเวลานั้น ๆ รู้จักกันในหมู่ผู้ค้นคว้าศึกษาเรื่องยูเอฟโอ
จำแนกเรียกวัตถุชนิดนี้ว่า "Foo Fighters"(ออกเสียง ฟูไฟท์เตอร์)
มีที่มาจากภาษาฝรั่งเศษ Feu = Fire เพราะว่ามันปรากฎเป็นแสงไฟ
ที่เคลื่อนที่ในอากาศได้อย่างรวดเร็วและปราดเปรียว
ชื่อนี้ถูกตั้งโดย U.S. 415th Night Fighter Squadron
หรือบางคนเรียกวัตถุนี้ว่าเป็น
"Kraut Fireballs" ก็มี (คำว่า Kraut
เป็นตำแหน่งขุนนางตำแหน่งหนึ่งของคนเยอรมันในอดีต)
รายงานการพบเห็นครั้งแรก ๆ เกิดขึ้นในราวปี 1944(พ.ศ2487)
เครื่องบินรบที่ปฎิบัติการในตอนกลางคืนรายงานการพบเห็นวัตถุ
ประหลาดทรงกลม เปล่งแสงได้ โดยเปล่งแสงสีแดง สีส้มและสีขาว
ออกมาและทั้งนี้ก็ได้บินติดตามเครื่องบินรบมาด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง
วันที่ 13 ธันวาคม 1944
ผู้บัญชาการหน่วยปฎิบัติการทางอากาศของฝ่ายสัมพันธมิตรซึ่งมีฐานที่
ตั้งในกรุงปารีส
ให้สัมภาษณ์กับสื่อซึ่งได้ถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์
วันถัดมาว่าทางฝ่ายสัมพันธ์มิตรเจอบางอย่างที่เรียกว่า
"New German Weapon" หรืออาวุํธชนิดใหม่ของเยอรมันนี
ซึ่งดูเหมือนกับว่าหลังจากนั้นคำว่า Foo Fighter
ก็ได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย
มีรายงานการพบเห็นจากฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิคเช่นเดียวกัน
โดยครั้งหนึ่งพลประจำปืนของเครื่องบินทิ้งระเบิด B-29
เคยจัดการยิงวัตถุชนิดนี้จนแหลกละเอียดตกลงไปยังพื้นด้านล่างและ
เกิดไฟลุกขึ้น แต่จากรายงานการพบเห็นในที่ต่าง ๆ
สรุปว่าวัตถุประหลาดนี้ยังไม่เคยมีครั้งใดที่มันจะต่อกรกับ
เครื่องบินรบแบบตรง ๆ จะทำก็เพียงแค่บินติดตามเท่านั้นเอง
เรียกว่ามันยังไม่ถึงกับเป็นภัยคุกคามมากนัก non-threatening
อย่างไรก็ตามแต่หลังจากสงครามโลกสิ้นสุดลง
วัตถุชนิดนี้ก็ยังคงพบเห็นกันอยู่เป็นประจำ แม้กระทั่งทุกวันนี้
จึงอาจจะเป็นข้อสรุปได้ว่า เป็นไปได้ที่วัตถุนี้จะมิได้เป็นอาวุธพิเศษใด ๆ
ของฝ่ายอักษะ
TACHIKAWA-KAWASAKI KL-36 FIGHTERS AS SEEN AS WITH FOO FIGHTER “BOGIES”
มาชมไฟล์เก่าเก็บของ foo fighter ในอดีตครับ บันทึกได้ที่ Great falls
มลรัฐ Montana วันที่ 15 สิงหาคม 1950 เวลาประมาณ 11.30 น.
คนบันทึกได้ชื่อคุณ Nicolas Mariana
คลิปนี้บันทึกได้ที่ Corpus Christie, มลรัฐTexas วันที่
25 กรกฎาคม 1959. บันทึกได้โดยคุณRay Stanford.
foo fighter นี้มิใช่เรื่องแปลกครับ
ผู้คนในอดีตก็มีบันทึกการพบเห็นมานานแล้ว
หรือแม้แต่ปัจจุบันนี้ก็มีรายงานการพบเห็นอยู่เช่นเดียวกัน มีคลิป
foo fighter คลิปหนึ่งที่ผมดูแล้วน่าสนใจทีเดียว
เป็นคลิปที่บันทึกได้ที่ประเทศออสเตรเลีย 22 เมษายน 2010
เวลาประมาณเที่ยงคืน คนบันทึกชื่อว่า คุณ Anthony Raduka
บริเวณที่พบอยู่ในส่วนที่เรียกว่า Cario Bay
บันทึกได้โดยชายนักธุรกิจคนหนึ่งบันทึกได้จากดาดฟ้าบ้านเขา
วัตถุที่บันทึกได้นี่เคลื่อนที่ได้อย่างปราดเปรียวอย่างเหลือเชื่อ
สามารถเคลื่อนที่ในแนวดิ่งลงไปต่ำจนเกือบถึงพื้นดิน
แล้วดีดขึ้นไปบนท้องฟ้าระดับหลังคา และเคลื่อนไปในแนวซิกแซก
ดูแล้วไม่น่าจะเป็นเครื่องบิน หรือ Drone แน่นอน
คลิปนี้ดูเหมือนกับว่าจะถูกส่งไปตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง
ซึ่งแม้แต่หน่วยงานที่ตรวจสอบ NSW โดยโฆษก คุณ Doug Moffett
ก็ยังไม่อาจจะสรุปได้ว่าวัตถุที่บันทึกได้นี้คืออะไรแน่
เพราะว่ามันเป็นวัตถุที่เคลื่อนที่ได้เร็ว
ถึงแม้จะเป็นเวลาค่ำคืนจะว่าเป็นแสงสะท้อนก็ไม่น่าจะใช่
เพราะว่าแสงสะท้อนจะไม่น่าจะบันทึกได้นานขนาดนี้
อีกอย่างวัตถุนี้เคลื่อนที่ได้เร็วในทิศทางที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ทั้งในแนวดิ่ง
และแนวระดับ
ท่านครับ คลิปด้านล่างนี้เป็นอีกหนึ่งคลิปที่มีชื่อเสียงมาก
เป็นคลิปภาพสีที่ครั้งหนึ่งเครื่องบินคอนคอร์ตยังเปิดให้บริการเิดินอากาศ
อยู่ ถูกจับภาพจากเครื่องบินจากสายการบิน British Airways
ประมาณเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ.1976
จากการประมาณความเร็วของวัตถุประหลาดนี้แล้วพบว่ามันน่าจะเคลื่อน
ที่ด้วยความเร็วถึง 1,200 ไมล์ต่อชั่วโมงทีเดียว
ขณะบินอยู่บริเวณ Wiltshire ตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษ
ซึ่งพบว่ามีวัตถุชนิดหนึ่งรูปร่างกลม ๆ ไม่ปรากฎสัญชาติ
เคลื่อนที่ในแนวดิ่งจากบนลงล่าง
แล้วเคลื่อนที่มาอยู่ในแนวเดียวกับเครื่องบินแล้วบินหายลับไปใน
แนวระดับ วัตถุนี้มีรูปร่างกลม ๆ ขนาดไม่ใหญ่มากนัก
วิเคราะห์แล้วน่าจะเป็น Foo Fighter ลำหนึ่งนั่นเอง
(แต่นักวิเคราะห์ในคลิปเขายอมรับว่าใ่ช่คงไม่ได้
เรื่องนี้เป็นความลับขั้นสุด
เขาวิเคราะห์ว่าเป็นแสงอาทิตย์ที่กระทบกับเลนส์แล้วเกิดภาพสะท้อน)
ผมพยายามสืบหาประวัติของคลิป ๆ นี้ดู ในปี 1976
เครื่องบินคอนคอร์ดถูกนำเสนอว่าเป็น "the future of aviation"
หรืออนาคตความก้าวหน้าทางการบิน หรือบางทีก็เรียกกันว่าเป็น
the fastest until then plane(เครื่องที่บินเร็วกว่าเครื่องทั่ว ๆ ไป)
ซึ่งเครื่องบินคอนคอร์ดนี้เป็นเครื่องบินแบบ Supersonic
หรือก็คือบินได้เร็วกว่าเสียง
ซึ่งนั่นจะทำให้ย่นระยะเวลาที่ผู้โดยสารจะต้องนั่งคุดคู้อยู่บนเครื่องเป็น
เวลานาน ๆ จากฝั่งทวีปยุโรปถึงอเมริกา
และทั้งนี้ยังเป็นผลดีกับนักธุรกิจกระเป๋าหนักที่มองหาความรวดเร็วในการ
ประสานธุรกิจของเขาด้วย
คอนคอร์ดเป็นเครื่องบินในเชิงพาณิชย์ที่ใช้โดยสารโดยพลเรือน
ผู้ผลิตเป็นการร่วมทุนของทางอังกฤษและฝรั่งเศษ
ซึ่งเที่ยวบินต้นแบบแรกนั้นเกิดมาก่อนหน้านี้แล้ว ในราวปี 1969
แต่นำมาใช้งานในเชิงพาณิชย์จริงก็ในปี 1976 ซึ่งคลิปนี้เป็น Official
Film ที่คอนคอร์ดลำนี้กำลังทำการ test flight
อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษเดือนมิถุนายน 1976
ไม่มีใครทราบมาก่อนว่าจะมีวัตถุที่แปลกประหลาดปรากฎในคลิป
อยากให้ท่านวิเคราะห์ดูว่า
เครื่องบินในคลิปกำลังบินด้วยความเร็วไปข้างหน้า
แต่วัตถุนี้กลับเคลื่อนที่ในแนวดิ่งจากบนลงล่างเลยลำตัวเคลื่อนบินลงไป
ยังแล้วเคลื่อนที่ขึ้นมาเสมอกับลำตัวเครื่องบินและเคลื่อนที่ไปได้ในแนว
ระดับบินหายลับไป เกินขีดความสามารถสติปัญญาที่สิ่งบินใด ๆ
ในมนุษย์ยุคนั้นจะคิดค้นทำให้ยานพาหนะที่เคลื่อนที่ในอากาศเคลื่อนที่ใน
ลักษณะนี้ได้ ฝรั่งถึงใช้คำนี้กับยูเอฟโอที่อยู่ในคลิปว่าเป็น "daredevil"
หรือความบ้าบิ่น ได้เลยทีเดียว
คล้าย ๆกับว่ายูเอฟโอลำนี้จะมาเฝ้าสังเกตุ(Spy) เครื่องบินนี้อยู่
นักวิเคราะห์ชาวฝรั่งยังกล่าวว่ามันก็ไม่น่าจะมีประโยชน์อะไรมากนัก
ที่บริษัทผลิตเครื่องบินนี้จะทำคลิปนี้ขึ้นเพื่อหลอกลวง
เพราะว่าบริษัทเขาเจตนาจะโปรโมทสมรรถนะเครื่องบินคอนคอร์ด
อันเนื่องจากเครื่องบินคอนคอร์ดนี้มีอัตราค่าโดยสารที่แพงมหาศาล
จึงคิดทำคลิปสวย ๆ แสดงสมรรถนะของเครื่องขึ้นมา(เจตนาเพื่อขาย)
ไม่ได้โปรโมท UFO
ยิ่งถ้าจะทำคลิปขึ้นมาเพื่อเปรียบเทียบสมรรถนะของวัตถุประหลาดนี้กับ
เครื่องบินที่บินอยู่ในคลิปนี้แล้ว แทบจะเรียกได้ว่าเครื่องบินลำนี้เป็น
"the obsolete of aviation" หรือความล้าสมัยของการบิน
ได้เลยก็อาจจะเรียกเช่นนี้ได้ ทำไมหรือครับ
เพราะว่าวัตถุประหลาดกลม ๆ เล็ก ๆ ซึ่งมีขนาดย่อมกว่าเครื่องบินเป็นร้อย
ๆ เท่า และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใช้อะไรเป็นเครื่องยนต์และใช้อะไรเป็นแหล่ง
พลังงานในการขับเคลื่อน นี้มันเคลื่อนที่ได้ทั้งในแนวดิ่งและแนวระนาบใน
ขณะอยู่กลางอากาศ โดยที่ยังควบคุมทิศทางได้ด้วย
ขณะที่เครื่องบินที่มนุษย์สร้างขึ้น เคลื่อนที่ไปในแนวระนาบได้อย่างเดียว
จะไปเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่แบบกะทันหันไม่ได้
โดยเฉพาะการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง 90 องศา
และหยุดกะทันหันแล้วเคลื่อนที่กลับขึ้นมาข้างบนด้วยแล้ว
ก็ยิ่งไม่น่าจะทำได้
ทั้งนี้แล้วคลิปนี้ยังเป็น Official Film ด้วย ยิ่งไม่น่าทำ
คลิปนี้ดูไปตามที่บันทึกแล้ว
คนบันทึกมีเจตนาที่จะบันทึกเครื่องบินลำนี้โดยตั้งใจเป็นอย่างยิ่ง
เขาเลือกมุมกล้องและมุมแสงที่ดูดีถูกต้องทีเดียว
สังเกตุว่าวัตถุที่กล้องกำลังจับภาพอยู่(เครื่องบิน) อยู่เต็มเฟรมและได้
Center กับหน้ากล้องพอดี
เวลาที่บันทึกได้เป็นเวลากลางวัน
ดวงอาทิตย์เวลาที่บันทึกนั้นอยู่ทางด้านซ้ายมือ สาดแสงมายังวัตถุ
(เครื่องบิน) จากด้านท้ายของเครื่องดวงอาทิตย์ไม่ได้อยู่หน้าเลนส์
อยากให้ท่านวิเคราะห์ดูคลิปนี้อย่างละเอียดอีกครั้งว่ามันเป็นไปได้ไหมว่า
วัตถุที่เห็นในคลิปที่เป็นรูปร่างทรงกลม สีขาว นี้จะเป็น reflection of
sunlight within the objectives of the cameras.
หรือแสงสะท้อนของดวงอาทิตย์ที่เกิดผ่านเลนส์กล้อง ฝากให้ท่านชมครับ
คลิปนี้มีชื่อเสียงครับ
ท่านครับ เครื่องประมาณสักสามปีก่อนคือเดือนมิถุนายน ปี 2013
สายการบิน Air China
เครื่องโบอิ้ง 757 ที่ระดับความสูง 26,000 ฟุต
ได้ปะทะกับวัตถุประหลาดบางอย่างจนเสียงดังสนั่น
เป็นเหตุให้ต้องร่อนลงอย่างฉุกเฉิน ภายหลังจากที่ร่อนลงแล้ว
มีการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวเครื่อง
พบว่าบริเวณจมูกของเครื่องบินได้รับความเสียหายเป็นรอยบุบวงกลม
ใหญ่พอประมาณ ทั้งนี้แล้วไม่พบว่ามีรอยเลือดหรือคราบของสิ่งมีชีวิต
ใด ๆ ที่พอจะตั้งสมมติฐานว่าเป็นนกมาบินชน
ซึ่งมันก็คงเป็นไปได้ยากที่จะมีนกชนิดใดที่บินขึ้นมาได้อยู่ในระดับ
ความสูงประมาณนี้
อีกอย่างโดยน้ำหนักของนกก็ไม่น่าจะมากพอที่จะทำให้จมูกของ
เครื่องบินบุบได้มากขนาดนี้
และก็ไม่มีรอยคราบขนหรือรอยเลือดของสัตว์ติดอยู่บนจมูกของเครื่อง
อีกด้วย ดูคลิปครับ
มีฝรั่งนักวิเคราะห์บางท่านตั้งข้อสงสัยว่าวัตถุที่มาชนปลายจมูกของ
เครื่องโบอิ้ง 757 นี้เป็นไปได้ว่าจะเป็น Orbs หรือก็คือ Foo Fighter
นั่นเอง พิจารณาจากรอยบุบของจมูกที่เป็นรอยบุบทรงกลม
แทบจะเรียกว่าเป็นผิวเรียบเลยก็ว่าได้ โดยที่ขอบ ๆ แล้วดูเหมือนจะมี
สีดำ ๆ ติดอยู่บ้าง
เครื่องบินลำนี้ประสบอุบัติเหตุโดยชนกับวัตถุบางอย่างอย่างแน่นอน
ตัดประเด็นเืรื่องชนกับเครื่องบินด้วยกันทิ้งได้
เพราะว่าถ้าชนกับเครื่องบินด้วยกันเอง
คงจะเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ไปแล้ว
และก็ไม่น่าจะเป็นหรือสัตว์บินได้ชนิดใดด้วย
เพราะว่าตอนเกิดอุบัติเหตุอยู่ในระดับความสูงที่สูงพอสมควรทีเดียว
ฝรั่งนักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่าลักษณะการชนแบบนี้จะเป็นการชน
ในลักษณะล่างขึ้นบนครับ ไม่ได้ชนตรง ๆ ซึ่งหากเราไปดูคลิปของ
Foo Fighter ที่คนหลาย ๆ คนบันทึกได้ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน
เพราะว่ายูเอฟโอลักษณะนี้มีลักษณะชอบเครื่องที่แบบฉวัดเฉวียนในแนว
ดิ่ง บนลงล่าง หรือล่างขึ้นบน ดูได้จากคลิปที่สายการบิน Britist Airway
บันทึกได้
รอยบุบของปลายจมูกเครื่องภายหลังที่ร่อนลงจอด ดูจากระยะไกล
ถ้าเข้ามาดูใกล้ ๆ จะเห็นรอยบุบเป็นรูปร่างแบบนี้
คือลักษณะจะบุบเป็นทรงกลม
ตรงนี้ถ้าพิจารณาจากรถยนต์ที่อยู่บนท้องถนนแล้ว
รอยบุบบนรถสามารถตั้งข้อสังเกตุได้ว่า
รถยนต์คันนั้นถูกชนด้วยวัตถุอะไรได้ เช่นหากถูกรถจักรยานยนต์่ชน
รอยบุบก็จะเป็นรูปแบบเฉพาะบุบเข้าไปเป็นจุด ๆ เดียว
หรือหากถูกรถยนต์ด้วยกันชน
รอยบุบก็จะมากกว่าและกินพื้นที่กว้างกว่า
อันนี้ถ้าท่านขับรถไปตามท้องถนนแล้วสังเกตุรถยนต์คันอื่นก็จะพอคาด
คะเนได้เช่นกัน
ผมคัดแต่คลิปที่เชื่อถือได้มาให้ชมครับ คลิปนี้ถูกออกอากาศเป็นข่าว
คือวันที่ 31 สิงหาคม 2010 เป็นข่าวในประเทศจีนมีคนพบ
Foo Fighter ที่เมือง Haiyan มณฑลเจ้อเจียง เป็นวัตถุกลม ๆ สีฟ้า ๆ
มันลอยอยู่กลางอากาศสังเกตุเห็นได้ถึง 3 ชั่วโมงทีเดียว
คลิปด้านล่างนี้เป็นอีกคลิปหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากพอสมควรทีเดียว
เป็นคลิปที่มีวัตถุประหลาดชนิดหนึ่งสีเหลือง ๆ ปล่อย(release)
Foo fighter ออกมาเป็นจำนวนมาก ๆ
คลิปนี้ผมหาอยู่นานพอควรทีเดียวเพราะว่าจะเป็นคลิปต้นฉบับเดิม
บันทึกได้โดยนาย Pedro Hernandez เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2009
ที่ประเทศเ้ม็กซิโก สังเกตุพฤติกรรมการบันทึกแล้วคล้าย ๆ
จะไม่ตั้งใจบันทึก แต่ตั้งใจจะบันทึกเครื่องบินที่บินผ่านไป
(ดูตอนต้น ๆ คลิปครับ) แต่บังเอิญว่าไปจับภาพวัตถุนี้ได้อย่างบังเอิญที่สุด
คลิปนี้น่าสนใจเช่นกันครับ คือเขานำคุณ Pedro Hernandez
ซึ่งเป็นผู้ที่บันทึกนี้ได้มาทำการสัมภาษณ์
คลิปนี้โดยนัยมีความน่าเชื่อถือครับ เพราะว่าคนบันทึกมีตัวตนจริง
และยอมเปิดเผยชื่อนามสกุล
คลิปของ Foo Fighters
ที่บันทึกได้ตอนกลางวันก็พอหาดูได้ไม่ยากครับ
สำหรับคลิปนี้ก็บันทึกได้ชัดพอควรครับ