สนใจผลิตภัณฑ์ ผมอนันต์ Tel.0868910596

เครื่องอัดแคปซูลยาอะคริลิก,บล็อกอัดแคปซูลยาอะคริลิก

      สำหรับบล็อกอัดแคปซูลยาที่เป็นพลาสติกอะคริลิก

ผมมีให้เลือกสองรุ่นสองแบบครับ คือแบบเล็ก กับ แบบใหญ่

แบบใหญ่จะมีตัวบดยาให้ด้วย และขนาดจะใหญ่กว่า ทั้งนี้เมล็ดยาก็มีทั้งเบอร์ 0

และเบอร์ 1 เช่นกัน ใช้งานง่ายครับ 

รุ่นนี้เป็นแบบใหญ่ครับ ขนาดใหญ่ทนทานใช้งานง่าย แข็งแรง

ใส่เมล็ดยาได้เต็มที่ 113 เมล็ด

    แบบรุ่นนี้ขนาดจะเล็กกว่าครับ ราคาจะย่อมเยากว่าด้วย และใส่เมล็ดยาได้

104 เมล็ด

สีแคปซูลที่ผมมีจำหน่าย เบอร์ 1 และเบอร์ 0 

Trick(หรือก็คือลูกเล่นครับ) ค่อนข้างแน่ใจว่าไม่มีที่ไหนยอมบอกแน่ ๆ 

    ท่านครับ ท่านยังพอจำวิชาคณิตศาสตร์ที่เคย ๆ

เรียนกันตอนครั้งยังเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยมปลาย

หรือมหาวิทยาลัยได้บ้างไหมครับ

วิชาคณิตศาสตร์ที่ว่าด้วยการจัดหมู่

(Permutation and Combination) นะครับ

ทบทวนความจำครับ

โจทย์หากท่านมีเสื้ออยู่สี่สีที่ไม่เหมือนกันในตู้เสื้อผ้าของท่าน คือ สีขาว

สีแดง สีม่วง และสีฟ้า ในขณะเดียวกัน ท่านก็มีกางอยู่สี่สีที่ไม่เหมือนกัน

คือกางเกง สีขาว สีแดง สีม่วง และสีฟ้า

คำถามคือท่านจะแต่งตัวออกจากบ้านได้กี่อย่างหรือกี่วิธี

คำตอบที่ถูกต้องคือท่านจะสามารถแต่งตัวออกจากบ้านได้ 16

อย่างครับหรือก็คือ 16 วิธีครับ แล้วแต่ท่านจะเลือก ซึ่งมันจะเป็นดังนี้ครับ

ท่านจะสามารถใส่เสื้อสีขาวกางเกงสีขาว, ใส่เสื้อสีขาวกางเกงสีแดง,

ใส่เสื้อสีขาวกางเกงสีม่วง, ใส่เสื้อสีขาวกางเกงสีฟ้า,

ใส่เสื้อสีแดงกางเกงสีขาว, ใส่เสื้อสีแดงกางเกงสีแดง,

ใส่เสื้อสีแดงกางเกงสีม่วง, ใส่เสื้อสีแดงกางเกงสีฟ้า,

ใส่เสื้อสีม่วงกางเกงสีขาว, ใส่เสื้อสีม่วงกางเกงสีแดง,

ใส่เสื้อสีม่วงกางเกงสีม่วง, ใส่เสื้อสีม่วงกางเกงสีฟ้า,

ใส่เสื้อสีฟ้ากางเกงสีขาว, ใส่เสื้อสีฟ้ากางเกงสีแดง,

ใส่เสื้อสีฟ้ากางเกงสีม่วง หรือใส่เสื้อสีม่วงกางเกงสีม่วง

  สรุปคือของชิ้นแรกเลือกมา 1 วิธีก่อนจากนั้นเลือกสิ่งของอื่น ๆ ได้อีก 4

วิธี จากนั้นก็นำจำนวนวิธีมาบวกกันครับ มันก็จะได้ (1x4) + (1x4)

+(1x4) + (1x4) = 16 วิธี ซุปเปอร์ง่ายครับ

       มีหลาย ๆ กรณีเลยครับที่ผมถูกถามว่าคุณมีสีแคปซูลสีแบบนี้ ๆ ไหม

ซึ่งผมก็ตอบไปว่าไม่มี แต่จริง ๆ มันทำได้ง่าย ๆ เลยครับ

คือท่านซื้อแคปซูลในสีที่ท่านต้องการแล้วสลับสีกันเอง คือแคปซูลเบอร์ 1

ก็จะเข้าหัวท้ายได้พอดีกัน หรือแคปซูลเบอร์ 0 ต่อเบอร์ 0 ด้วยกัน

มันก็สลับเข้ากันได้พอดีนั่นละครับ

การไปสั่งแคปซูลในสีที่เราต้องการหากว่าสีนั้นไม่มีจำหน่ายในท้องตลาด

แล้ว ทำได้ครับ แต่ต้องสั่งผลิตกันทีเป็นอย่างน้อยล้านเมล็ดครับ

ฝากโจทย์ข้อนี้ให้ท่านคิดต่อครับ

 แคปซูลแต่ละเบอร์เหมือนหรือต่างกันอย่างไร 

     หลายท่านสงสัยครับว่าหมายเหตุแคปซูลแต่ละเบอร์สามารถใส่ตัวยาหรือวัตถุดิบ

ของยาได้มากหรือน้อยเท่าใด ผมอธิบายตามที่ฝรั่งให้ข้อมูลมาดังนี้ครับคือ

อันนี้หมายถึงว่าใส่ยาผงลงไปในบล็อกอัดแล้วเกลี่ยให้เต็มแคปซูลขายาวให้เสม

อกับขอบเลยครับ

ถ้าเป็นเบอร์ 00   จะสามารถบรรจุยาได้ปริมาณ 735 มิลลิกรัม

เบอร์แคปซูลนี้หรือเบอร์ใหญ่กว่านี้(เบอร์ 000) ส่วนใหญ่ฝรั่งทานครับ

ในเมืองไทยโดยทั่วไปตามร้านยาไม่ค่อยเห็นจะมีนำมาจำหน่ายครับ

ถ้าอยากได้ต้องสั่งเอา

ถ้าเป็นเบอร์ 0     จะสามารถบรรจุยาได้ปริมาณ 500 มิลลิกรัม

เบอร์แคปซูลยานี้พบเห็นทั่วไปที่ขายในเมืองไทยครับ

ผู้ใหญ่คนไทยทานแคปซูลเบอร์นี้ครับ

ถ้าเป็นเบอร์ 1      จะสามารถบรรจุยาได้ปริมาณ 400 มิลลิกรัม

เบอร์นี้พบเห็นได้ตามร้านยาเช่นกันครับ เด็กคนไทยรับประทานครับ

ถ้าเป็นเบอร์ 2       จะสามารถบรรจุยาได้ปริมาณ 300 มิลลิกรัม

พบเห็นยากขึ้นแต่ก็ยังพอหาได้ครับ

ถ้าเป็นเบอร์ 3        จะสามารถบรรจุยาได้ปริมาณ 200 มิลลิกรัม

พบเห็นยากขึ้นอีกแต่ผมเคยมีลูกค้าโทรมาถามท่านบอกว่าท่านมีจำหน่ายและมีเ

บอร์ที่เล็กจิ๋วกว่านี้อีกด้วย เสียดายมากครับผมทำหมายเลขโทรศัพท์ท่านหายไป

ถ้าใครทราบก็บอกต่อได้ครับ

      โดยปกติแล้ว หนึ่งช้อนชาของยาผง จะสามารถบรรจใสุ่แคปซูลเบอร์ 0

ได้ประมาณ 7 แคปซูลครับ

       ทั้งนี้ทั้งนั้นถึงอย่างไรก็ตามแต่

ตัวยาแต่ละตัวมีความหนาแน่นและความถ่วงจำเพาะที่ไม่เท่ากันนะครับ

ดีที่สุดที่ฝรั่งบอกมาคือให้ท่านลองหาตาชั่งที่ละเอียด ๆ

มาทดลองชั่งทีละเมล็ดยาก่อนว่าหลังจากบรรจุไปแล้วนี่ได้น้ำหนักตามที่ต้องกา

รหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากตัวยาผงของท่านหนักมาก

หรือมีความถ่วงจำเพาะมาก ๆ แล้ว

บางทีท่านไม่จำเป็นต้องใส่ให้เต็มแคปซูลมันก็ได้น้ำหนักตามที่ท่านต้องการแล้ว

แต่มันก็จะดูโหรงเหลง ถ้าใส่ตัวยาลงไปในแคปซูลน้อยเกินไป

บางทีอาจจะทำให้ลูกค้าเกิดความสงสัยว่าหลอกกันหรือเปล่า

อันนี้ฝรั่งบอกว่าให้แก้ไขโดยใส่ให้เต็มแคปซูลโดยอาจจะผสมกับอะไรที่รับประท

านไ้ด้ โดยที่ไม่มีผลไปลบล้างหรือทำปฎิกิริยาอะไรกับยา เช่น นมผงเด็ก

แป้งข้าวจ้าว วิตามิน หรือสารฟิลเลอร์อื่น ๆ 

           แต่ถ้าหากว่าผงยาของท่านมีความถ่วงจำเพาะน้อยมาก ๆ เช่น เบามาก ๆ

อันนี้ถ้าหากว่าท่านต้องการจะใส่ให้ได้ปริมาณที่ต้องการ

ท่านต้องไปขยับเบอร์แคปซูลให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้ใส่ให้ได้มากขึ้น

เช่นถ้าใส่ผงยาลงในแคปซูลเบอร์ 1 จนเต็มแคปซูลแต่

แล้วน้ำหนักแคปซูลยังไม่ได้น้ำหนักที่ท่านต้องการ ในกรณีนี้

ท่านต้องขยับไปใช้แคปซูลเบอร์ 0 เพื่อใส่ผงยาครับ

เพื่อท่านจะไ้ด้ใส่ให้ได้มากขึ้นให้ได้ปริมาณยา(Ingredient) ตามที่ต้องการ

มาชมวิธีการใช้งานบล็อกอัดแคปซูลยาอะคริลิกครับ(บล็อกใหญ่)

   ในชุดจะประกอบไปด้วย 1. แผ่นยาเบอร์ 0 และ เบอร์ 1

                                           2. แปรงปัด 1 อัน

                                           3. แผ่นอัดยาให้แน่น 1 อัน

ในชุดเมื่อประกอบจัดเก็บให้เรียบร้อยจะมีสภาพดังที่เห็นครับ

  ในชุดจะมีแผ่นอัดใ้ห้ท่านเลือกใช้ครับ

ให้ท่านนำแผ่นอัดมาใส่ในฐานรองก่อนดังรูป

หลังจากนั้นให้ท่านนำแคปซูลเปล่ามาเปิดฝาออกแล้วใส่ฝาล่าง(

ฝายาวลงในบล็อก)ให้เต็มทุกบล็อกครับ

หลังจากนั้นให้เติมยาลงไปให้เ็ต็มทุกช่อง หลังจากนั้นใช้แปรงปัด

และเกลี่ยผงยาที่เกินออกไป เวลาที่ท่านทำท่านควรจะทำในภาชนะใหญ่ ๆ

เช่นกระดาษ สะอาด หรือถาดแสตนเลสที่สะอาด ๆ ครับ

และอย่าลืมใส่ที่ปิดจมูก และถุงมือปลอดเชื้อด้วย เพื่อสุขลักษณะ

หลังจากนั้นให้นำแผ่นกดอัดยา มาประกบเพื่อกดอัดยาให้แน่นขึ้น

ในกรณีนี้แผ่นกดอัดยาจะมีให้เฉพาะบล็อกอัดแคปซูลยารุ่นใหญ่เท่านั้นน

ะครับ รุ่นเล็กไม่มีให้

แต่ท่านสามารถประยุกต์โดยใช้ตะเกรียบอัดแทนได้ครับ

แผ่นนี้จะกดได้นะครับ ให้ท่านกดลงไป แล้วยกแผ่นขึ้นมา

หากท่านเห็นว่าตัวยายังน้อยไปเติมลงไปอีก

แต่ถ้าหากท่านเห็นว่าพอควรแล้ว ก็เป็นอันใช้ได้ครับ

ด้านข้างของบล็อกอัดจะมีก้านไว้สำหรับยกขึ้นหรือปรับลงของฐานครับ

ปกติจะปรับลงเสมอ

แต่ว่าหลังจากที่ท่านกรอกยาลงในฝายาจนเต็มและอัดเป็นที่เรียบร้อยแล้

วให้ท่านยกก้านอันนี้ขึ้นครับ

เมื่อท่านยกก้านอันนี้ขึ้นมาแล้ว ฝายาจะลอยขึ้นมาครับ ให้ท่านนำฝาปิด(

ฝาสั้น) มาปิดลงไปทุกเมล็ด และดึงเมล็ดยาออกมา

ก็จะเป็นอันเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว 

อีกวิธีหนึ่งที่จะนำเมล็ดยาที่ใส่ยาเรียบร้อยแล้วออกมาให้เร็วกว่าการใช้

มือดึงออกทีละเมล็ดก็คือให้ท่านปลดสปริงที่ล็อกออกทั้งสองด้าน

แล้วดึงแผ่นอะครีลิคออกมาแล้วจึงค่อยปลดเมล็ดยาออกทั้งหมดโดยปลด

ใส่ภาชนะที่รองรับเช่น จาน ชาม หรือภาชนะที่จัดไว้

คือให้ท่านคว่ำแผ่นอะครีลิคลงแล้วตบเมล็ดยาทั้งหมดที่อยู่ในแผ่น

อะครีลิคออกอย่างเบา ๆ เมล็ดยาทั้งหมดก็จะถูกปลดออกมาพร้อม ๆ กัน

      บล็อกยาอันนี้มีข้อดีคือ ทำความสะอาดด้วยน้ำได้ครับ

เพราะเป็นพลาสติกไม่อมน้ำ

เมื่อท่านทำความสะอาดแล้วให้เช็ดให้แห้งสนิท

หรือถ้าตามรูใส่ยาให้ใช้สำลีที่สะอาดทำความสะอาดอีกครั้งก็ดีครับ

ข้อควรระวังคือ ห้ามให้บล็อกอัดยาตกนะครับ เพราะมันจะแตกได้ครับ

ไม่เหมือนบล็อกอัดยาไม้ จะแข็งแรงและตกได้ไม่แตก

   สุดท้ายท่านอย่าลืมใช้ขอเกี่ยวเกี่ยวแผ่นอัดยาทุกครั้งที่ใช้งานครับ

เพราะมันจะได้ไม่ขยับเขยื้อนและทำงานได้สะดวกครับ

มาชมวิธีการใช้งานบล็อกอัดแคปซูลยาอะคริลิกครับ(บล็อกเล็ก)

      บล็อกอัดแคปซูลบล็อกเล็กนี่น่าใช้มาก ๆ ครับ

เพราะขนาดของมันกะทัดรัดดี และใช้งานได้ง่ายมาก ๆ อีกด้วย

คือมีขนาด( กว้าง x ยาว x สูง ) 21 x 13.5 x 9 ซม.

ในชุดที่จัดเก็บเรียบร้อยแล้วจะต้องอยู่ในสภาพนี้ครับ

ซึ่งหลังจากการใช้งานท่านก็ควรจะจัดให้อยู่ในสภาพนี้ทุกครั้ง 

ถ้าหากแยกชุดออกมาก็จะเป็นดังภาพ คือมีแผ่นอัดยา เบอร์ 0 และ เบอร์

1 แป้นวางแผ่น และแผ่นกวาดยาและแปรงปัด

ให้นำแผ่นอัดยาเบอร์ที่ท่านต้องการวางบนแท่นก่อนดังรูป

ให้ล็อกแผ่นอัดยาด้วยขอสปริงทุกครั้ง โดยให้ล็อกทั้งสองฝั่งเลยครับ

แท่นอัดยาให้อยู่ในสภาพนี้เสมอคือให้ด้ามจับอยู่ในสภาพตั้งขึ้น

หลังจากนั้นให้ใส่เมล็ดยาลงในบล็อกอัดและทำการกรอกยาลงไป

ปัดและกวาดยาที่เกินออกไปทางด้านออกของแผ่นอัดยา

หลังจากนั้นให้ยกฐานอัดขึ้นโดยกดที่ด้านข้างให้นอนลง

และดำเนินการปิดฝาแคปซูลแล้วนำแคปซูลยาออกจากบล็อก

ข้อควรระวังเวลาที่ท่านปิดฝาแคปซูลครบทุกฝาแล้ว ให้ท่านหาภาชนะลื่น

ๆ เช่น จานแสตนเลส หรือจะเป็นค้อนยางก็ได้

วางจานแสตนเลสลงไปในถาดยาช้า ๆ แล้วค่อย ๆ

ใช้มือกดจานแสตนเลสลงไปให้ทั่ว ๆ ทุกเมล็ดยา

การทำเช่นนี้จะทำให้เมล็ดยาที่ปิดฝาไปแล้ว แน่นขึ้น

คือฝาปิดสนิทมากยิ่งขึ้น หรือหากเป็นค้อนยางก็ให้ตบลงไปที่เมล็ดยา

เบา ๆ ให้ครบทุกเมล็ดก็จะช่วยเพิ่มความแน่นของฝายาได้

เวลาท่านจะนำแคปซูลที่อัดยาเรียบร้อยแล้วออกจากบล็อกมีสองวิธีครับ

คือวิธีแรกใช้มือดึงออกมาทีละเมล็ด ๆ

ส่วนอีกวิธีก็คือให้ปลดสปริงที่เกี่ยวถาดบรรจุยาซึ่งตอนแรกได้เกี่ยวล็อกไว้

ออกมาก่อน แล้วจึงยกถาดยาออกมาอย่างช้า ๆ

ด้วยความระวัง

หาภาชนะที่จะใส่เมล็ดยามารอง 

หลังจากนั้นให้คว่ำถาดยาลงแล้วใช้มือค่อย ๆ ตบเมล็ดยาออกอย่างระวังช้า ๆ 

     ท่านครับผมมีคลิปอยู่คลิปหนึ่งที่น่าสนใจ อยากจะฝากให้ท่านชมครับ

มันเป็นการบรรจุสารละลายจำพวกน้ำหรือน้ำมันเข้าไปในแคปซูลเข้า

ในคลิปเขาใช้หลอดหยดธรรมดา(Dropper)ทำ ซึ่งก็ดูง่ายดี

แต่มันมีข้อเสียคือมันช้าครับ

และอาจจะหกเลอะเทอะได้เพราะต้องประคองตัวแคปซูลและต้องหยอดยา

ในเวลาเดียวกัน

ถ้าหากว่าท่านมีเครื่องบรรจุแคปซูลยาแบบนี้แล้วใช้หลอดหยดทำ

จะทำได้เร็วกว่าและสะอาดกว่าเพราะจะหกออกมาน้อยกว่าครับ

ตัวยาที่มนุษย์รับประทานไม่จำเป็นเสมอที่จะต้องเป็นผงเสมอไปนะครับ

เป็นจำพวกน้ำมันหรือสารละลายน้ำผสมตัวยาก็สามารถนำมาบรรจุแคปซู

ลได้เช่นกันครับ ส่วนใหญ่ถ้าเป็นสารละลายยาำจำพวกน้ำมันแล้ว

มักจะใช้แคปซูลแบบใสครับ

เพราะจะได้ให้ลูกค้าดูสีตัวยาและปริมาณบรรจุด้วย

http://www.youtube.com/watch?v=seZkWTk5dKg

ตาชั่งตวงยา

ง่ายที่สุดหากจะชั่งยาจำนวนน้อย ๆ แล้วใช้ตาชั่งดิจิตอลหน่วยเป็นกรัม

และมีความละเอียดหลังจุดทศนิยม 2 ตำแหน่ง พกพาง่าย 

       ท่านครับปกติแล้วร้านยาที่จำเป็นต้องชั่งยาเป็นประจำ

โดยเฉพาะยาแผนจีน หรือแม้แต่ยาแผนไทยโบราณก็ตามแต่

เราจะไม่ค่อยจะเห็นเขาชั่งตาชั่งแบบดิจิตอลครับ

เพราะว่าเขาจะเชื่อตาชั่งแบบโบราณ

คือตาชั่งสองแขนแบบบาลานซ์เสียมากกว่าครับ

เขาอธิบายว่ามันเที่ยงตรงและใช้งานง่ายกว่า

จานชั่งกับตัวเครื่องชั่งเป็นอิสระต่อกัน

สามารถยกจานชั่งออกจากตาชั่งได้ โอกาสเสียน้อยมาก

ถ้าเป็นตาชั่งแบบดิจิตอลแล้วมีโอกาสเพี้ยนไปได้เหมือนกัน

ตาชั่งแบบสองแขนบาลานซ์นี่ มีประมาณ 2 รุ่นหลัก ๆ ครับ

คือเป็นรุ่นที่ปรับค่ากรัมได้ หรือเป็นรุ่นที่ไม่มีค่ากรัมให้ปรับ ลองชมดูครับ

รุ่นนี้เป็นแบบไม่มีกรัมให้ปรับครับ วิธีใช้ืคือใช้ตุ้มน้ำหนักใส่ไว้ที่ข้างหนึ่ง

แล้วชั่งโดยใส่ยาลงไปอีกแขนหนึ่งให้ตาชั่งทั้งสองแขนบาลานซ์กันจึงใช้

ได้ 

้ถ้าเป็นแบบนี้จะปรับเป็นกรัมได้ครับ ผมเห็นหลาย ๆ

ร้านที่มีชื่อใช้กันมากเหมือนกัน คือถ้าหน่วยเล็ก ๆ ปรับเป็นกรัมได้เลย

หรือจะเปลี่ยนไปใช้ตุ้มน้ำหนักอย่างเดียวก็ได้ครับ

ส่วนใหญ่เห็นเขาใช้ชั่งยาจีนกันครับ 

นี่คือชุดตุ้มน้ำหนักที่จะมีให้ในชุดครับ ท่านจะเห็นว่ามีทุกน้ำหนักให้เลือกเลย

และโดยเฉพาะยาตำรับโบราณแล้วด้วย ต้องชั่งกันเป็นชุด ๆ

เช่นยาชุดหนึ่งมีห้าตัวยา ตัวยาแรกใช้กี่กรัมก็ชั่งไปเท่านั้นตัวยาที่สองสามสี่

ก็ใส่ตุ้มน้ำหนักขึ้นไปเรื่อย

ซึ่งทางร้านเขาบอกว่าถ้าใช้ตาชั่งลักษณะนี้จะง่ายกว่าใช้ดิจิตอลเสียอีก

เพราะตรงจุดที่ชั่งเป็นจานมีขอบขึ้นมา ทำให้ใส่ยาได้ง่าย

หลังจากชั่งแล้วก็ยกจานนี้ขึ้นมาได้เพื่อเทยาใส่ภาชนะอื่นหรือใส่ถุงได้เลย

และความน่าเชื่อถือก็มีมากด้วย

เพราะถ้าใส่จานทั้งสองแขนแล้วมันไม่บาลานซ์คือเอียงไปฝั่งใดฝั่งหนึ่งมากเกิน

ไปนั่นคือเครื่องเพี้ยนไป สามารถจะปรับให้ตรงก่อนได้เลย

ซึ่งถ้าเป็นตาชั่งแบบดิจิตอลแล้วเราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเครื่องตรงหรือเพี้ยนอยู่

ตุ้มน้ำหนักที่ใช้ใส่ในจานชั่งจะมีตั้งแต่ใหญ่สุดจนถึงหน่วยมิลลิกรัมเลยครับ

โดยที่ 1,000 มิลลิกรัมคือ 1 กรัมครับ

เพราะฉะนั้นท่านจะชั่งได้ทุกน้ำหนักที่ต้องการเลยครับ

แต่ถ้าหากว่าท่านต้องการความสะดวกจะใช้ตาชั่งดิจิตอลก็เป็นแบบนี้ครับ