ปืนวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรต -50 ถึง 700 C
Non-Contact IR Infrared Digital Thermometer
(Model: GM-700)
4,000.- ผมอนันต์ครับ Tel.0868910596
Features:
- Memory storage up to 12 data
- Wide Temperature range: -50 ~ 700°C (-58 ~ 1292°F)
- D:S = 12:1, maximum distance from the target object
- Highly accurate and reliable
- Adjustable Emissivity from 0.10 ~ 1.00 (Preset at 0.95)
- Spectral Response from 8~14µm
- Easy to read Large screen display
- 4 levels Battery Power Indication
- Auto Power Off when idle
- Data Hold Function
- Access surface temperature in 1 second
- Easy switch to °C or °F
- Maximum (MAX), Minimum (MIN), Average (AVG) and Difference (DIF) temperature functions
- Adjustable High / Low Temperature Alarm
- Fast response time (0.5 seconds), highly accurate and reliable
- Measure hazardous or inaccessible objects (high-voltage parts)
- Pre-Calibrated in Factory
- Ergonomically shaped hand grip
- Laser Target Pointer ON/OFF selection
- Backlight ON/OFF selection
- With CE marking, meets EU safety, health and environmental requirements
Specifications:
- Temperature Range: -50 ~ 700°C (-58 ~ 1292°F)
- Resolution: 0.1°C/°F
- Accuracy:
*****-50~0°C (-58~32°F): ±3°C (±5°F)
*******0~700°C (32~1292°F): ±1.5 °C (±2.7 °F) or ±1.5% - Repeatability: 1% or 1°C
- Response Time: 500ms, 95% response
- Spectral Response (Wavelength): 8~14µm
- Distance to Spot Ratio (D:S): 12:1
- Emissivity: 0.95 (fixed) , 0.10~1.00 (user adjustable)
- Laser Power: < 1 mW
- Selectable between °C / °F
- Data Hold Function
- Laser Target Pointer Selection
- Backlight Display Selection
- Auto Power Shut Off
- Operating Environment:
- Temperature: 0~40°C (32~104°F)
- Relative Humidity: 10~95% R.H. non-condensing, up to 30°C
- Temperature: 0~40°C (32~104°F)
- Storage Temperature: -20~60°C (-4~140°F)
- Power Supply: 1 x 9V Battery (included)
- Battery Life: 22 hours (Non-Laser Mode), 12 hours (Laser Mode)
- Dimension: approx. 175x100x49mm (or 6.89 x 3.94 x 1.93inch) LxWxD
- Weight: approx. 191g (or 6.73oz) (battery not included)
Approximate Emissivity
|
|
Emissivity
|
Material
|
**0.30
|
**Aluminum |
**0.50
|
**Lead , Brass |
**0.70
|
**Basalt , Iron |
**0.80
|
**Steel |
**0.85
|
**Carbon , Glass (plate) |
**0.90
|
**Brick , Sand , Snow , Frozen Food |
**0.94
|
**Oil , Textiles , Wood , Dirt |
**0.93
|
**Paint , Hot Food , Water |
**0.95
|
**Asphalt , Paper , Plastic , Ceramic , Rubber , Concrete ,Copper |
**0.98
|
**Limestone , Skin , Ice |
Accessories included:
- 1 x User Manual
- 1 x 9V Battery
สำหรับปืนวัดอุณหภูมินั้นถ้าให้วัดได้ประมาณสัก 200 - 350
องศาเซลเซียสแล้วหาได้ทั่ว ๆ ไป
แต่ถ้าจะให้วัดได้ที่อุณหภูมิที่จำเพาะขึ้นเช่น ตั้งแต่ 450
องศาเซลเซียสแล้ว จะเริ่มมีุรุ่นให้เลือกน้อยลงครับ
ปืนวัดอุณหภูมิของผมรุ่นนี้วัดได้มากถึง 700 องศาเซลเซียส
ใช้งานได้ง่าย พกพาสะดวกครับ
เครื่องใช้แบตเตอรี่ 9 โวล์ตก้อนเดียวเป็นแหล่งพลังงาน
ซึ่งเมื่อท่านได้เปิดฝาออกมาแล้ว จะพบว่า
ภายในจะเป็นปุ่มเพื่อใช้ปรับเปลี่ยนการวัดอุณหภูมิืจากหน่วยองศาเซล
เซียสเป็นหน่วยองศาฟาเรนไฮน์ด้วย
วิธีการเปิดฝาครอบแบตเตอรี่ของเครื่อง
ก็คือให้ท่านแกะฝาครอบออกจากทั้งสองด้านพร้อม ๆ กัน
(ด้านซ้ายและด้านขวาตามรูป) เพื่อให้ฝาครอบหลุดออกมา
ห้ามแกะโดยออกแรงแกะเพียงแค่ด้านใดด้านหนึ่งเพียงอย่างเดียว
เพราะอาจจะทำให้ฝาครอบแบตเตอรี่หลุดหรือชำรุดได้
D:S อยู่ที่ 12:1
ขนาดกะทัดรัดเหมาะกับมือพอดีครับ
มีคลิปที่เกี่ยวกับปืนรุ่นนี้ให้ชมสักสองคลิปครับ
ผมคัดเลือกแล้วน่าชมมาก
คลิปแรกเป็นการวัดอุณหภูมิน่าจะอยู่ในประเทศในเขตหนาว
(ประเทศรัสเซีย) ซึ่งอากาศในสิ่งแวดล้อมที่หนาว ๆ เย็น ๆ
ประเภทวัดแล้วติดลบแบบนี้ในเมืองไทยไม่มีใให้ได้ชมแน่ ๆ
ครับ และผมก็ไม่ค่อยจะเห็นสถานที่ที่เย็น ๆ แบบนี้(ในที่พัก)
ซึ่งคงจะหนาวมากทีเีดียว ขนาดอยู่ในห้องอุณหภูมิยัง 0
หรือติดลบเลย
คนวัดเขาโชว์เทคนิคการตรวจวัดที่น่าสนใจครับ
คือให้กดปุ่มค้างไว้(อย่างเพิ่งปล่อยมือออก)
แล้วกวาดพื้นที่่ที่จะวัดไปเรื่อย ๆ
แล้วจะเห็นความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิในแต่ละจุดได้
อย่างชัดเจน ลองชมดูครับ
คู่มือการใช้งานปืนวัดอุณหภูมิรุ่น GM-700
ปืนวัดอุณหภูมิรุ่นนี้สามารถวัดอุณหภูมิได้ในช่วง ติดลบ 50
องศาเซลเซียส ถึง 700 องศาเซลเซียส หรือ ติดลบ 58 องศาฟาเรนไฮน์ ถึง
1,292 องศาฟาเรนไฮน์
ซึ่งวิธีการเปลี่ยนจากองศาเซลเซียสเป็นองศาฟาเรนไฮน์นั้นปุ่มปรับจะอยู่ที่ด้านใน
ฝาใส่แบตเตอรี่ คือให้เปิดฝาใส่แบตเตอรี่ออกมาแล้วค่อยเลื่อนปรับ(ตามภาพ)
ปืนวัดอุณหภูมิรุ่นนี้หน้าจอมีแสง Backlight
และมีจุดเลเซอร์ออกมายังจุดที่ยิงวัดด้วย วิธีการเปิดหรือปิดแสงหน้าจอ
(แสง Backlight) และจุดเลเซอร์คือ ให้กดเลือกที่ปุ่มสีเหลืองบนขวาสุด
ก็จะเป็นการเลือกเพื่อให้เปิดแสงไฟหน้าจอ(แสง Backlight) และจุดเลเซอร์ได้
สรุปความสามารถของปืนวัดอุณหภูมิรุ่นนี้ที่สามารถทำได้คือ
1. ปืนวัดอุณหภูมิรุ่นนี้สามารถปรับค่า EMS หรือค่า Emissivity
ของวัตถุสิ่งของได้ คือจะสามารถเลือกได้ตั้งแต่ 0.10 ถึง 1.00 แล้วแต่วัตถุนั้น ๆ
จะดูดกลืนค่าความร้อนได้มากเพียงใด แต่โดยทั่ว ๆ ไปจะตั้งไว้ที่มาตรฐานที่
0.95 หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ 95 เปอร์เซ็นต์นั่นเอง วิธีการปรับตั้งค่า EMS ก็คือ
ให้กดไปที่ปุ่ม Mode กดไปเรื่อย ๆ จนเจอตัวอักษร EMS กระพริบ ๆ
หลังจากนั้นให้กดปุ่ม SET(ปุ่มบนซ้าย) 1 ครั้ง และเลือกไปที่ลูกศรขึ้น - ลง
(ปุ่มล่างซ้ายหรือปุ่มล่างขวา) จนได้ค่า EMS ที่ท่านต้องการ เป็นอันใช้งานได้
2. ปืนวัดอุณหภูมิรุ่นนี้สามารถตรวจวัดค่าอุณหภูมิสูงสุดที่มัน Scan ได้
โดยมันจะค้างค่าอุณหภูมิที่สูงที่สุดที่มันอ่านค่าได้ไว้บนหน้าจอเสมอ
วิธีการวัดเช่นนี้ท่านจะต้องวัดแบบที่เรียกว่าวัด Scan
วิธีการก็คือให้กดปุ่มไกปืนค้างไว้อย่าปล่อยมือออก
จากนั้นให้กวาดการวัดไปให้ทั่ว ๆ จุดที่จะวัด ท่านจะสังเกตุเห็นว่าตัวเลขหน้าจอ
(ตัวเลขด้านล่าง) จะค้างค่าสูงสุดที่มันวัดได้เสมอ
จากนั้นจึงค่อยปล่อยมือออกจากไกปืน ยกตัวอย่างเช่น ท่านต้องการวัดแบบ
Scan บางส่วนของร่างกายเช่นท่อนแขนก็ให้ท่านเลือกไปที่ปุ่ม Mode
แล้วกดปุ่มนี้เลือกไปเรื่อย ๆ จนเจอคำว่า MAX กระพริบ ๆ อยู่
หลังจากนั้นให้กดปุ่ม SET ก็เป็นอันใช้งานได้
3. ปืนวัดอุณหภูมิรุ่นนี้สามารถตรวจวัดค่าอุณหภูมิต่ำสุดที่มัน Scan ได้เช่นกัน
วิธีการก็ให้ท่านเลือกไปที่ปุ่ม Mode แล้วกดปุ่มนี้เลือกไปเรื่อย ๆ จนเจอคำว่า
MIN กระพริบ ๆ อยู่ หลังจากนั้นให้กดปุ่ม SET 1 ครั้งก็เป็นอันใช้งานได้
4. ปืนวัดอุณหภูมิรุ่นนี้สามารถตรวจวัดค่าอุณหภูมิเฉลี่ยที่มัน Scan ได้
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าท่านต้องการจะวัดอุณหภูมิเฉลี่ยส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
เช่น ท่อนแขน ก็ให้ท่านกดปุ่มไกปืนค้างไว้แล้วไล่วัดไปเรื่อย ๆ
ปืนจะเฉลี่ยอุณหภูมิของท่อนแขนท่านให้เอง วิธีการจะทำเช่นนั้นได้ก็คือ
ให้ท่านกดปุ่ม Mode แล้วกดปุ่มนี้เลือกไปเรื่อย ๆ จนเจอคำว่า AVG กระพริบ ๆ
อยู่ หลังจากนั้นให้กดปุ่ม SET 1 ครั้งก็เป็นอันใช้งานได้
5.ปืนวัดอุณหภูมิรุ่นนี้สามารถตรวจวัดค่าอุณหภูมิที่แตกต่างระหว่างจุดสองจุดที่
มัน Scan ได้ ยกตัวอย่างเช่น อุณหภูมิที่แตกต่างกันบนแขนข้างเดียวกัน
วิธีใช้งานก็คือ ให้ท่านกดปุ่ม Mode แล้วกดปุ่มนี้เลือกไปเรื่อย ๆ จนเจอคำว่า
DIF กระพริบ ๆ อยู่ หลังจากนั้นก็ให้กดปุ่ม SET 1 ครั้งก็เป็นอันใช้งานได้
ท่านสามารถนำไปตรวจวัดได้เลย
6.ปืนรุ่นนี้สามารถตั้งให้มันร้องเมื่ออุณหภูมิที่ตรวจวัดอยู่สูงกว่าอุณหภูมิที่ท่านตั้ง
ไว้ได้ เช่น ถ้าหากท่านตั้งอุณหภูมิสูงสุดไว้ที่ 20 องศาเซลเซียส
เมื่อใดก็ตามที่ปืนวัดอุณหภูมิวัดอุณหภูมิได้สูงกว่า 20
องศาเซลเซียสปืนวัดอุณหภูมิรุ่นนี้จะร้องขึ้นมา 3
ครั้งเป็นการเตือนให้ทราบว่าอุณหภูมิที่วัดได้ตอนนี้อยู่สูงกว่าจุดที่ท่านตั้งไว้
วิธีการจะทำเช่นนั้นได้ก็คือให้ท่านกดปุ่ม Mode แล้วกดปุ่มนี้เลือกไปเรื่อย ๆ
จนเจอคำว่า HAL กระพริบ ๆ อยู่ หลังจากนั้นให้กดปุ่ม SET 1 ครั้ง
แล้วให้ท่านกดปุ่มลูกศร ขึ้น หรือ ลง(ปุ่มสีเทาล่างซ้ายหรือล่างขวา)
เลือกไปเรื่อย ๆ จนได้ค่าอุณหภูมิที่ต้องการ ก็เป็นอันใช้งานได้
7.ปืนรุ่นนี้สามารถตั้งให้มันร้องเมื่ออุณหภูมิที่ตรวจวัดอยู่ต่ำกว่าอุณหภูมิที่ท่านตั้ง
ไว้ได้ วิธีการก็ให้ทำเช่นเดียวกับข้อ 6. คือกดปุ่ม Mode แล้วกดเลือกไปเรื่อย ๆ
จนเจอคำว่า LAL กระพริบ ๆ อยู่ กดปุ่ม Set 1 ครั้ง แล้วให้ท่านกดปุ่มลูกศร ขึ้น
หรือ ลง(ปุ่มสีเทาล่างซ้ายหรือล่างขวา) เลือกไปเรื่อย ๆ
จนได้ค่าอุณหภูมิที่ต้องการ ก็เป็นอันใช้งานได้
8. ปืนรุ่นนี้สามารถเก็บค่าที่มันวัดได้
วิธีการใช้งานก็คือให้ท่านเคลียร์ข้อมูลทั้งหมดเสียก่อน(ลบทิ้งให้หมด)
โดยกดปุ่มบนกลาง(ปุ่ม STO/CAL) ค้างไว้ประมาณ 3 วินาที ท่านจะได้ยินเสียง
บี๊บ ยาว ๆ ดังขึ้น 1 ครั้ง หลังจากนั้นให้ท่านกดปุ่ม Mode
แล้วให้ท่านกดเลือกไปเรื่อย ๆ จนเจอคำว่า STO กระพริบ ๆ อยู่ ก็ให้ท่านกดปุ่ม
SET 1 ครั้ง หลังจากนั้นให้ท่าน ตรวจวัดอุณหภูมิได้ตามปกติ
แต่เมื่อใดก็ตามที่ท่านตรวจวัดแล้วต้องการจะเก็บข้อมูลไว้ก็ให้ท่านกดไปที่
ปุ่มบนกลาง(ปุ่ม STO/CAL) 1 ครั้ง(ถ้าท่านไม่ต้องการจะเก็บก็ไม่ต้องกดปุ่มนี้)
ปืนวัดอุณหภูมิจะบันทึกค่าอุณหภูมิที่ท่านต้องการเก็บไปเรื่อย ๆ นั่นเอง
วิธีการเลือกดูค่าอุณหภูมิที่ท่านบันทึกไว้คือ รอให้ปืนวัดอุณหภูมิปิดเครื่องก่อน
จากนั้นให้กดปุ่มไกปืนเพื่อเปิดเครื่องขึ้นมาอีกครั้ง แล้วจึงกดปุ่มบนกลาง
(ปุ่ม STO/CAL) ท่านก็จะเห็นค่าอุณหภูมิที่ท่านบันทึกค่าไว้ปรากฎขึ้นมา
(กดไปเรื่อย ๆ ก็จะเห็นค่าที่บันทึกต่อ ๆ มานั่นเอง)