และแล้ววันนี้ก็มาถึงจนได้ ที่สุดแล้วกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็ทน
ไม่ไหวทำการ"ปล่อยของ" ออกมาในเดือน เมษายน ค.ศ.2020 สาม
คลิปด้วยกันตรงนี้ถ้าเป็นของที่ถูกปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการ
จากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แล้ว ก็คงจะพอยืนยันในความมีอยู่
จริงได้
ปฐมบท
ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2004 ระบบเรดาห์ของกอง
ทัพสหรัฐฯ ตรวจจับวัตถุบางอย่างบนท้องฟ้าได้ ซึ่งระบบเรดาห์ที่ใช้
เป็นระบบเรดาห์ที่เรียกได้ว่าใหม่และทันสมัยที่สุดก็ว่าได้ คือระบบ AN/SPY-1B เพิ่งเข้าประจำการ ตอนแรกที่ตรวจจับวัตถุประหลาดบนท้องฟ้าได้ผ่า
นทางเรดาห์ เรียกตอนนั้นว่าเจอ “ghost tracks” ลักษณะมาเป็น
กลุุ่ม “clutter”
เจ้าหน้าที่ควบคุมคาดว่าคงเกิดจากความผิดพลาด
ของเรดาห์ใหม่ จึงได้ทำการรีเซตระบบเรดาห์ใหม่เริ่มเดินระบบใหม่
แต่สุดท้ายเรดาห์มันก็ยังคงตรวจจับวัตถุประหลาดนี้ได้อยู่ดี สิ่งที่เร
ดาห์ตรวจจับได้นี้อยู่ในระดับความสูง 60,000 - 80,000 ฟุตเหนือ
ระดับน้ำทะเลและบางทีมันก็ลงมาอยู่ที่ระดับ 30,000 ฟุตทำความ
เร็วไม่มากนักประมาณ 100 knots วัตถุประหลาดที่เรดาห์จับได้
จากการวิเคราะห์แล้ว เป็นวัตถุที่ไม่ใช่เครื่องบินหรือสิ่งบินใด ๆ ที่
เคยรู้จักหรืออยู่ในน่านฟ้าบริเวณนั้น ไม่สามารถระบุได้ว่าวัตถุดัง
กล่าวนี้เป็นมิตรหรือศัตรู(เรียก IFF หรือ Identification Friend or
Foe) ซึ่งปกติกองเรือรบของสหรัฐฯ จะมีหน่วยวิเคราะห์สถานการณ์
ลักษณะนี้อยู่ เพื่อเป็นการประเมินการสู้รบ หรือเพื่อปกป้องกอง
เรือรบให้ปลอดภัยจากการถูกโจมตี เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตอนนั้น
เริ่มค่ำแล้วออกไปมองส่องด้วยกล้องขยายกำลังสูงที่ติดประจำการ
อยู่บนกาบเรือด้านหนึ่ง เจอแสงประหลาดตรงจุดที่ว่าจริง ๆ มันเปล่ง
แสงได้และเคลื่อนที่ได้เพียงแต่มันไกลเกินกว่าจะแยกออกว่าเป็น
วัตถุอะไรกันแน่ มันเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งและก็หยุด
กะทันหัน
The USS Princeton Command Information Center.
ท่านไม่ใช้
คำศัพท์เรียกมันว่า UFO แต่ท่านใช้ศัพท์อีกคำแทน เรียก
Anomalous Aerial Vehicles(ตัวย่อ AVVs) หรือยานพาหนะบน
ท้องฟ้าที่ไม่สามารถระบุประเภทได้ ประมาณ
วันที่ 10 พ.ย.2004 ผู้บัญชาการบนเรือรบ Princeton ตรวจพบ
วัตถุประหลาดประมาณ 5 ถึง 10 ลำบนจอเรดาห์เส้นทางการเดิน
ทางคือไปทางใต้ โดยลักษณะคือเดินทางไปแบบเกาะกลุ่มกันไป
โดยบางช่วงจังหวะการเกาะกลุ่มก็เป็นไปอย่างหลวม ๆ ที่ระดับความ
สูง 28,000 ฟุต(หรือ 8,500 เมตร) เหนือระดับน้ำทะเลระหว่างเกาะ
Catalina และ San Clemente ความน่าสนใจและน่าประหลาดที่สุด
คือที่ระดับความสูงขนาดนี้วัตถุเหล่านี้สามารถลดระดับความเร็วจน
เหลือเพียงแค่ประมาณ 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่าผิดปกติ
และไม่น่าเป็นไปได้สำหรับวัตถุที่บินได้ที่อยู่ในระดับความสูงขนาด
นั้น ซึ่งดูเหมือนระบบเรดาห์ของเรือรบลำอื่นที่อยู่บริเวณใกล้เคียงก็
จับความผิดปกตินี้ได้ด้วย ก็เป็นอยู่ร่วม ๆ สัปดาห์ และก็จากการส่อง
ด้วยกล้องส่องทางไกลก็พอจะมองเห็นความผิดปกติได้ในระยะไกล
เช่นเดียวกัน และนี้เป็นสาเหตุให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น
วันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ.2004 เรือบรรทุกเครื่องบิน Nimitz
ลอยลำห่างจาก San Diego ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ
100 ไมล์ทะเล นักบิน David Flavor ผู้บัญชาการฝูงบินโจมตีที่ 41
และผู้ช่วยนักบิน นำเครื่องบินรบ F/A-15A super hornets เอจโพ
ดำหน่วยจู่โจมที่ 41 ขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบิน Nimitz เพื่อ
ทำการฝึกบิน
เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการช่วยเหลือและการโจมตีให้เกิด
ความชำนาญ ก็ห่างจากชายฝั่งโดยประมาณ 60 – 70 ไมล์ ระหว่าง
San Diego และ Ensenada โดยฉับพลัน นักบินได้ถูกเรือศูนย์
ควบคุมบนรบแม่ USS Princeton
แจ้งให้ทราบเป็นการด่วน ให้ยุติและหยุดการฝึกใด ๆ ไว้ก่อน เพราะ
ว่าเรามีภารกิจอื่น นักบินจำเป็นต้องปฎิบัติตามคำสั่งโดยหันหัว
เครื่องบินไปยังจุดที่ทางเรือรบแม่แจ้งมาโดยที่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า
ทำไม เครื่องบินบินออกไปทางตะวันตกมีเครื่องบินรบอีกลำบินอยู่
ข้าง ๆ เครื่องบินผม บนจอเรดาห์เรามองไม่เห็นความผิดปกติใด ๆ
ซึ่งทางผมก็ได้พูดคุยทางวิทยุกับเครื่องบินอีกลำและนักบินผู้ช่วย ก็
คือระบบเรดาห์บนเรือรบใหญ่ของสหรัฐฯ แล้วประสิทธิภาพดีมาก ๆ
เลย มันดีพอที่จะตรวจจับวัตถุที่มีขนาดเท่ากับลูกเบสบอลลูกหนึ่งใน
อากาศได้โดยจับได้ถึงระดับความสูง 80,000 ฟุต
ผมพยายามมองออกไปข้างนอกเครื่องบินว่ามีอะไรกันแน่ ซึ่งมัน
ก็ยากเหมือนกันที่จะไปมองหาอะไรก็ตามที่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่า
เขาจะให้หาอะไร เพราะว่าทางเรือรบใหญ่เขาเล่นไม่ยอมบอก จนสุด
ท้ายเรดาห์อันทรงประสิทธิภาพบนเรือรบใหญ่ จับสัญญาณการซ้อน
ทับของเครื่องบินรบกับวัตถุปริศนานี้ได้ทางเรือรบแจ้งมาว่า Merge
Pilot
ก็พูดง่าย ๆ ตอนนี้เครื่องอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับวัตถุปริศนา
นี้แล้ว
ให้คุณมองหาสิ่ง ๆ นั้นที่คุณกำลังมองหาได้ สิ่งที่มองเห็นก็คือใต้
ผิวมหาสมุทรบริเวณนั้นคล้าย ๆ กับมีวัตถุอะไรบางอย่างอยู่ใต้น้ำ
มันดูคล้าย ๆ กับเรือดำน้ำหรือไม่ก็เครื่องบินที่ตกลงไป ขนาดของ
วัตถุประหลาดนี้ใหญ่ประมาณเครื่องบินโบอิ้ง 737
แต่ว่านักบินผู้ช่วยที่นั่งอยู่เบาด้านหลังบนเครื่อง ซึ่งทำหน้าที่ควบคุม
ระบบอาวุธมองเห็นอะไรบางอย่าง เขาบอกว่าเขามองเห็นความผิด
ปกติ(เรียก Tic Tac คล้าย ๆ ลูกอมชนิดหนึ่งรูปร่างออกทรงยาว ๆ)
ของวัตถุที่ว่านี้ ก็คือมันเป็นวัตถุที่ดูเป็นสีขาว ไม่มีปีก เรียบเหมือน
กับเครื่องเคลือบดินเผา ไม่มีปีก ไม่มีเครื่องยนต์ขนาดของมันก็พอ ๆ
กับเครื่องบิน F-18 ที่กำลังขับอยู่นี่ละคือยาวประมาณ 47 ฟุต กำลัง
บินวนเวียนอยู่เหนือวัตถุประหลาดใต้น้ำนี้ คล้าย ๆ กับพยายามจะทำ
อะไรสักอย่าง
การติดต่อประสานงานเกิดขึ้นอีกครั้ง ตอนนั้นอยู่ห่างจากฝั่ง
ประมาณ 30 ไมล์ ตอนแรกวัตถุประหลาดนี้อยู่ใต้ผิวน้ำลงไปไม่ลึก
เท่าไร พอมองเห็นได้แต่ที่มันแปลกก็คือ สิ่งที่บินวนเวียนอยู่เหนือ
วัตถุประหลาดนี้ ที่เรียกว่า Tic Tac การเคลื่อนที่ของวัตถุทรง
Tic Tac นี้มันเคลื่อนที่ไม่เหมือนกับอะไรเลยที่เคยเห็นมาก่อน
คือมันเคลื่อนที่เหมือนกับลูกปิงปองที่ถูกตีไปกระทบกับกำแพง คือ
เคลื่อนที่ไป ๆ กลับ ๆ เร็วมากและบางครั้งก็หยุดนิ่งกะทันหันคล้าย ๆ
กับมันมีเบรคเหมือนรถยนต์ ก็ด้วย
ความไม่แน่ใจผมซึ่งเป็นนักบินก็ใช้วิธีบินเป็นแนววงกลมเพื่อตรวจ
สอบ ก็บินเป็นวงกลมโดยให้วัตถุที่อยู่ใต้น้ำที่กำลังสังเกตุอยู่บริเวณ
จุดศูนย์กลางของวงกลม เริ่มจากบริเวณ(เทียบกับหน้าปัดนาฬิกา)
6 นาฬิกาบินไปที่ 9 นาฬิกาวัตถุนั้นยังคงอยู่เคลื่อนที่ในสภาพเดิม
ผมนักบินตัดสินใจนำเครื่องบินบินต่ำลงไปอีกโดยยังคงบินเป็น
วงกลมที่เวลา 12 นาฬิกา(เทียบกับหน้าปัดนาฬิกา) วัตถุ Tic Tac นี้
มันเลี้ยวกะทันหันแล้วมาหยุดตรงที่เครื่องบินผมบินอยู่นั่นแสดงว่า
วัตถุนี้มันรู้แล้วว่ากำลังถูกจับตามองอยู่ และก็ไม่คาดฝันวัตถุ Tic
Tac ประหลาดนี้บินขึ้นมาจากผิวน้ำบริเวณนั้น ตรงนี้มันทำให้ผม
กลัวมากเพราะว่าผมเองก็ไม่รุ้เหมือนกันว่าวัตถุประหลาดนี้มันคือ
อะไรกันแน่ วัตถุ Tic Tac นี้ส่องแสงสว่างและบินเฉียดกับจมูกเครื่อง
บินผมไปในระยะที่ใกล้มาก และเร็วมากอย่างน่าทึ่งทีเดียวแล้วมันก็
บินหายไป ผมเองที่กำลังสนใจกับ Tic Tac เมื่อเห็นว่ามันบินหายไป
แล้ว ก็เลยกลับไปตรงจุดที่วัตถุประหลาดใต้น้ำอีกครั้ง ปรากฎว่า
มองไม่เห็นแล้ว พื้นน้ำบริเวณนั้นกลับสู่ปกติทุกอย่าง
ผมนำเครื่องบินบินกลับไปยังจุดนัดพบที่ทางเรือรบใหญ่แจ้ง
มา(เรียกจุด Cap Point หรือ combat air patrol) ในวิทยุผมได้ยิน
เสียงการสนทนากันอย่างบ้าคลั่ง ในวิทยุเขาบอกว่าเรดาห์ตอนนี้จับ
วัตถุประหลาด Tic Tac ที่ว่านี้ว่ามันไปอยู่ใกล้จุด Cap Point แล้ว
คืออยู่ห่างจากจุด Cap Point เพียงแค่ 97 กิโลเมตรเท่านั้นเอง สิ่งที่น่าประหลาดที่มันทำต่อไปก็คือ มันเคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันตกห่าง
ออกไปโดยประมาณ 60 ไมล์ทะเลโดยใช้เวลาเคลื่อนที่ไม่ถึง 1 นาที
ด้วยซ้ำซึ่งนั่นหมายถึงมันต้องเคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่น้อยกว่า
3,700 ไมล์ต่อชั่วโมงเลย คำถามก็ตามมาว่าแล้ววัตถุประหลาดนี้มัน
รู้ได้อย่างไรว่าจุดที่เครื่องบินกับเรือรบนัดเจอกัน(จุด Cap Point)
มันอยู่ตรงไหน
เครื่องบินรบรุ่นที่ผมทำการบินอยู่นี้จัดได้ว่าเป็นเครื่องบินรบที่ทรง
สมรรถนะที่สุดรุ่นหนึ่งบนโลกนี้แล้ว ยังไม่มีขีดความสามารถใด ๆ ที่
จะไปทำอะไรอย่างนี้ได้ วัตถุนี้มันคืออะไรแน่ ผมบอกไม่ได้หรอกว่า
มันเป็นวัตถุที่มาจากนอกโลกแต่ก็อีกเช่นกันผมเองก็คงจะยอมรับไม่
ได้เหมือนกันว่าวัตถุนี้เป็นวัตถุที่เคยมีบนโลกหรือคนสร้างขึ้นมาได้
กลับไปที่เรือรบ Nimitz ผมแจ้งกลับหน่วยรบของผมเองกับ
เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น นักบินรบคนอื่นในหน่วยของผมตอนนี้พร้อม
ขึ้นทำการบินแล้ว นักบินอีกคนบอกกับผมว่าคุณน่าจะพูดเรื่องตลก
ออกมามากกว่าส่วนนักบินผู้ช่วยของเขาบอกกับผมว่าอย่างไรผมจะ
หาคำตอบให้ได้ เครื่องบินรบลำนี้ถูกส่งไปติดตามวัตถุนี้ตามที่เร
ดาห์ตรวจจับได้โดยติดกล้องถ่ายภาพ และกล้องถ่ายภาพอินฟาเรด
ประสิทธิภาพสูงไปด้วย(Forward Looking Infrared ตัวย่อ FLIR)
นักบินลำนี้กล่าวว่าวัตถุประหลาดนี้มันก่อกวนระบบเรดาห์ของเรา
แต่ว่าอย่างไรก็ตาม ผมสามารถจะจับภาพวัตถุนี้ได้จากกล้องถ่าย
ภาพและกล้องถ่ายภาพอินฟาเรดบนเครื่องบิน
และทั้งหมดนี้ก็คือที่มาของคลิป ๆ นี้ที่ชื่อว่า 2004 USS Nimitz
FLIR1 video(เรียกย่อ ๆ ว่า FLIR1) ของคุณพ่อ กระทรวงกลาโหม
สหรัฐฯ นั่นเอง และวัตถุที่อยู่ในคลิปนี้ก็คือสิ่งที่นักบินเรียกมันว่า
Tic Tac นั่นเอง
ก็มีฝรั่งเขาบันทึกวัตถุที่มีรูปร่างคล้าย ๆ กับ Tic Tac บนท้องฟ้าได้
เหมือนกัน รูปร่างมันคล้ายกับคำบรรยายครับ คือ ไม่มีปีก ไม่มี
เครื่องยนต์ ลำตัวเนียนเรียบคล้ายกับเครื่องปั้นดินเผา เขาไม่สรุปว่า
คืออะไร ชมดูครับ
จากการสืบค้นแล้ว วัตถุประหลาดบนท้องฟ้าที่เรียกว่า Tic Tac
มีนักบินอวกาศคนหนึ่งชื่อ คุณ James Mvdivitt เคยพบมาแล้ว
ตั้งแต่เดือน มิถุนายน ปี ค.ศ.1966 ตอนที่ยานอวกาศโคจรอยู่นอก
โลก ท่านอธิบายว่าลักษณะของมันเป็นสีขาวตัดกับสีดำมืดของ
อวกาศ รูปร่างคล้ายกับทรงกระป๋องเบียร์หรือกระป๋องโค้ก
คลิปนี้บันทึกได้ที่ Abilene, รัฐ Texas วันที่ 1/4/2020 12:23 pm
โดยคุณ Anthony Biddy.
คลิปนี้เป็นอีกหนึ่งคลิปที่พบวัตถุประหลาดรูปร่างคล้าย ๆ กับคำ
บรรยายของนักบินบนเรือรบนิมิตร นั่นคือมีรูปทรงที่เรียกว่า Tic Tac
คลิปนี้บันทึกได้จากหน้าต่างของเครื่องบินพาณิชย์ลำหนึ่งใน
เขตแดนประเทศออสเตรเรีย วันที่ 21 กันยายน ค.ศ.2011 เวลา
15.25 น. เครื่องบินลำนี้บินจากเกาะ Hamilton ไปยังเมืองบริสเบน
บันทึกโดยใช้กล้องมือถือซัมซุงกาแลคซี่ 2 ในคลิปนี้นาทีที่ 0.32
เครื่องบินเคลื่อนที่จากซ้ายไปขวา(ตามหน้าจอคอม) ที่หน้าต่าง
เครื่องบิน มีอะไรบางอย่างไม่ใหญ่มากนัก บินจากซ้ายไปขวาเช่น
เดียวกัน แต่ว่าบินแซงเครื่องบินไปเลยนั่นหมายถึงว่าวัตถุนี้บินได้เร็ว
กว่าเครื่องบินอย่างแน่นอน ตำแหน่งที่ผู้โดยสารท่านนี้นั่งจะอยู่ด้าน
หลังเครื่องยนต์ปีกซ้าย ตอนที่บันทึกผู้บันทึกก็สังเกตุเห็นความผิด
ปกติแล้วแต่ว่าไม่ค่อยแน่ใจนักคิดว่าจะเป็นแสงสะท้อนเสียมากกว่า
แต่ว่าภายหลังที่เครื่องลงก็นำคลิปที่บันทึกนี้มาวิเคราะห์อย่าง
ละเอียดอีกครั้ง
พบว่ามีวัตถุบินผ่านเครื่องบินจากซ้ายไปขวาจริง ซึ่งบินได้เร็วกว่า
เครื่องบินคือบินแซงไปเลย จำนวนสองลำ
ตรงที่ลูกศรชี้เป็นเงาสะท้อนของกระจก คือจากด้านในห้องโดยสาร
ซึ่งยืนยันว่าวัตถุที่เห็นทั้งสองนี้ไม่ใช่เงาสะท้อน แต่ว่ามันเคลื่อนที่อยู่
นอกห้องโดยสารจริง
หลังจากเหตุการณ์สงบลง มีเฮลิคอปเตอร์ Blackhawk มาลงจอด
บนเรือรบแล้วสอบถามเหตุการณ์ทั้งหมดจากผู้บัญชาการเรือรบ เจ้า
หน้าที่ที่มานี้มีสองคนดูท่าทางจะเป็นคนมีระดับทีเดียว เพราะว่าเขา
บอกว่าให้คืนทุกสิ่งทุกอย่างการบันทึก วีดีโอ เสียงที่บันทึกได้
ทั้งหมดให้ส่งมาเสีย ในเดือนกันยายน ค.ศ.2019 ทางกองทัพเรือ
สหรัฐออกมายอมรับในความมีอยู่จริงของวีดีโอนี้ และเรียกปรากฎ
การณ์นี้ว่า unidentified aerial phenomena หรือปรากฎการณ์
บนท้องฟ้าที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้
อีกสองคลิปที่เหลือจะอยู่ด้านล่างครับ ก็มีชื่อเรียกเช่นกัน คือคลิปนี้
เรียกว่า Go Fast
ส่วนคลิปสุดท้ายมีชื่อเรียกว่า Gimbal