บล็อกตัดเม็ดยา, บล็อกทำเม็ดยา
สำหรับการแพทย์แผนไทยแล้ว การทำให้สมุนไพรรับประทานได้
นอกจากท่านจะอัดผงสมุนไพรนั้นใส่ในเมล็ดแคปซูล
ซึ่งทำได้โดยใช้ บล็อกอัดแคปซูลยา ได้แ้ล้ว
อีกวิธีหนึ่งที่ท่านสามารถทำได้เช่นกัน ก็คือ ทำให้มันเป็นเม็ดยาลูกกลอน
(เม็ดยากลม ๆ ใช้ปั้นมือเอา) หรือถ้าอยากจะให้เร็วและได้จำนวนทีละมาก ๆ
ก็ใช้วิธีตัดให้มันเป็นเม็ดยาเล็ก ๆ สั้น ๆ คล้าย ๆ ยาอมไทย
ลักษณะเช่นนี้ครับ
จะทำเช่นนี้ได้ท่านต้องมีบล็อกทำครับ
ซึ่งบล็อกทำหรือตัดเม็ดยาก็จะมีหน้าตาลักษณะเช่นที่เห็นนี้ครับ
เป็นบล็อกไม้ครับ
คราวนี้ท่านสามารถจะทำยาสมุนไพรเม็ดจำหน่ายได้หรือจะทำไว้ทานเองก็ได้โด
ยการทำให้เป็นเม็ดจะทำให้ทานไ้ด้ง่ายขึ้น
วัดขนาด เบอร์ 19
ท่านจะสังเกตุได้ว่ามีฐานล่าง และตัวเลื่อนด้านบน
ซึ่งสามารถที่จะเลื่อนไปมาได้อย่างอิสระ ฐานด้านล่างกับ
ตัวเลื่อนด้านบนนี่ไม่ติดกันนะครับ สามารถเลื่อนสไลด์ออกจากกันได้
นับดูแล้วน่าจะตัดเม็ดยาได้ครั้งละประมาณ 30 เมล็ด
ถ้าหากรางใหญ่ขึ้นจะได้ประมาณ 19 เมล็ด
มีสองขนาดให้เลือกใช้ครับ
ถ้าท่านต้องการขนาดเม็ดยาเล็กหน่อยก็เลือกใช้บล็อกทางด้านขวามือ
แต่ถ้าหากท่านต้องการเมล็ดยาใหญ่ขึ้นก็เลือกใช้บล็อกทางซ้ายมือครับ
ผมถ่ายให้เห็นเฉพาะฐานด้านล่างครับ จะเห็นว่าไม่มีอะไรที่ซับซ้อน
ส่วนที่เห็นนี่เป็นฝาสไลด์ที่อยู่ด้านบนครับ
ถ้าวางลงไปแล้วมันก็จะเข้าล็อกกันพอดี และเลื่อนไปมาได้
วิธีทำก็คือให้ท่านนำผงยามาผสมกับน้ำผึ้งให้หมาด ๆ ปั้นยาให้เป็นลักษณะยาว
ๆ ให้เป็นเส้น แล้ววางยาที่ปั้นลงบนด้านปลายของฐานล่าง
หลังจากก็สไลด์ด้วยฝาบนไปบนยาเส้นนั้น ท่านก็จะได้เม็ดยาที่ท่านต้องการ
บรรจุใส่ภาชนะได้ ถ้าท่านต้องการหลาย ๆ เม็ด ก็ให้ปั้นหลาย ๆ
เส้นยาแล้ววางบนฐานล่าง พร้อมกัน หลาย ๆ
เส้นยา็ก็จะสามารถตัดได้เม็ดยาจำนวนที่มากขึ้น
วัดขนาดของความห่างของช่อง สำหรับขนาดเบอร์ 19
จะมีความกว้างของช่องโดยประมาณ 1 เซ็นติเมตร
ส่วนภาพด้านล่างนี้เป็นช่องห่างของบล็อกเบอร์ 23
ขนาดกลาง ความห่่างโดยประมาณ 0.75 ซม.
ทดสอบน้ำหนักโดยการชั่งดูคร่าว ๆ ครับ
รางไม้สักขนาด 13 มม.
ขนาดรางไม้ตัดยาลูกกลอนสั่งทำ
ด้านล่างนี้เป็นขนาดสั่งทำพิเศษ คือขนาดราง 15 และขนาด 19
มม. หรือ ก็คือ 1.5 และ 1.9 ซม. เป็นขนาดสั่งทำพิเศษ ออกแบบมา
เพื่อทำไส้ขนมผมถ่ายภาพและวัดขนาดให้ดูครับ มี 10 ร่อง ซึ่งมี
ขนาดใหญ่เป็นพิเศษ
หลังจากเคลือบน้ำมันแล้ว
ทดสอบน้ำหนัก
รางชุดนี้สามารถนำไปผลิตไส้ขนมได้
ชมคลิปการกลิ้งของลูกค้าที่นำไปใช้งานจริงครับ
คลิปด้านล่างนี้เป็นเทคนิคการกลิ้งด้วยรางไม้สักขนาด
15 มิลลิเมตร ผู้ใช้นำไปใช้งานตัดไส้ขนม
ด้วยสูตรไส้ขนมที่เหมาะมีคุณภาพแล้ว จะสามารถทำให้
การตัดเป็นไปโดยง่ายและได้เม็ดไส้ที่กลมพอดี ทั้งนี้ยัง
ทำงานได้ค่อนข้างเร็วทีเดียว ดีกว่าการนั่งปั้นด้วยมืออย่าง
แน่นนอน
ส่วนคลิปด้านล่างนี้เป็นไส้ขนมที่ตัดด้วยรางไม้สัก
ขนาด 19 มิลลิเมตรครับ
รางไม้สักทำเม็ดลูกกลอนขนาด 4 มม.
รางไม้สักทำเม็ดลูกกลอนขนาด 25 มม.
วิธีทำให้รางตัดยาลูกกลอนอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและ
วิธีการปรับรางเลื่อน
ก็คือรางตัดยาลูกกลอนนี้ ทำมาจากไม้ธรรมชาติไม่ใช่ไม้สังเคราะห์
ทางวิทยาศาสตร์ เช่นไม้เทียม เพราะฉะนั้นแล้วก่อนการใช้
งานผู้ใช้งานจำเป็นต้องทำให้รางตัดยาลูกกลอนอยู่ในสภาพที่
สมบูรณ์ให้มากกว่านี้ ก่อนอื่นเลยคือผู้ใช้ต้องชโลมด้วยน้ำมันพืช
เสียก่อน
สภาพของรางตัดยาลูกกลอนสภาพเดิม
ให้ผู้ใช้ชโลมรางตัดยาลูกกลอนนี้ให้ชุ่มก่อนด้วยน้ำมันพืช ทั้งใน
ส่วนของรางเลื่อนและฐานของรางตัดยา
จากนั้นตากไว้ให้แห้งที่สุด หรือหากไม่สามารถให้แห้งสนิทได้ให้
เช็ดรางตัดยาลูกกลอนนี้ด้วยสิ่งที่แห้ง ๆ เช่นกระดาษสะอาด
เนื่องจากรางตัดยาลูกกลอนนี้ทำด้วยไม้ที่แห้ง เพราะฉะนั้นแล้ว
การนำน้ำมันมาชโลมลงไปก็จะทำให้น้ำมันส่วนหนึ่งซึมลงไปยังผิว
ด้านล่างของเนื้อไม้ ก็จะเป็นการทำให้ไม้ของรางมีความลื่นมากขึ้น
ซึ่งหากทำอย่างถูกวิธีแล้ว ท่านก็จะได้รางตัดยาลูกกลอนตามภาพ
ด้านล่าง
สิ่งต่อไปที่ตรวจสอบก็คือในส่วนของตัวเลื่อน ที่ถูกต้องแล้วควรจะ
เลื่อนไปมาได้อย่างสะดวกไม่ติดขัด หรือฝืดจนมากไปนัก ความฝืด
ของตัวเลื่อนนี้หากว่าทดสอบแล้วเกิดการติดขัดหรือเลื่อนไปมาไม่
ได้สะดวกนัก ตรงนี้อาจจะมีสาเหตุมาจากเนื้อไม้เกิดการหดตัว กรณี
นี้เกิดขึ้นได้หากว่าทิ้งรางตัดยานี้ไว้ในที่อากาศเย็น ๆ และแห้ง ๆ
หรือว่ารางตัดยาลูกกลอนนี้ทิ้งไว้โดยไม่ได้ถูกใช้งานมาเป็นเวลา
นาน เนื่องจากเนื้อไม้เป็นวัตถุธรรมชาติชนิดหนึ่งที่มีความชื้นอยู่ใน
ตัว ถึงแม้จะเป็นไม้เก่าก็ตามแต่ โอกาสที่เนื้อไม้จะเกิดการหดตัวอัน
นี้ เป็นไปได้และเป็นไปโดยธรรมชาติของเนื้อไม้แทบทุกชนิด
ในกรณีเช่นนี้รางตัดยาลูกกลอนที่ผมผลิตขึ้น ถูกออกแบบมา
เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างง่าย ๆ ซึ่งผู้ใช้สามารถแก้ไข
ได้เอง ก็คือฐานของรางตัดยาจะถูกยึดกับขาฐานด้วยน้อตดังรูป
จะมีน้อตสี่ตัวอยู่ทั้งสองฝั่ง ฝั่งละสองตัว
ให้ท่านผู้ใช้งานหมุนคลายน้อตยึดออกก่อนสักสองสามเกลียว
โดยหมุนคลายจำนวนเกลียวให้เท่า ๆ กันทั้งสี่น้อตด้วยไขควงสี่แฉก
จากนั้นแล้วให้ตบเบา ๆ ด้วยด้ามไขควงเพื่อคลายให้ขาของฐานซึ่ง
เชื่อมกับฐานออกโดยตบออกเบา ๆ บนล่างทั้งสองด้าน
ที่ถูกต้องหากทำถูกวิธีแล้ว เมื่อนำรางเลื่อนวางลงไป รางเลื่อนจะ
ขยับได้สะดวกขึ้นอันเนื่องมาจากน้อตที่คลายออกและน้ำมันพืชที่
ชโลมลงไป หากว่าผู้ใช้ยังรู้สึกว่าฝืดอยู่ ก็ให้คลายน้อตออกอีกเล็ก
น้อยแล้วทำตามขั้นตอนที่กล่าวมา รางเลื่อนก็จะเลื่อนได้สะดวกขึ้น
ครับ
อีกนัยหนึ่งที่ทำให้รางเลื่อนไม่สามารถเลื่อนได้อย่างสะดวก
ฝืด, ฝืดมาก หรือถึงขั้นไม่ขยับ อันนี้จะเป็นสาเหตุที่มาจากเกิดการที่
ชโลมน้ำมันพืชลงไปบนรางเลื่อน ซึ่งการที่น้ำมันพืชถูกชโลมลงไป
ก็จะทำให้น้ำมันพืชซึมลงไปด้านล่าง เกิดการอมน้ำ จึงทำให้ราง
เลื่อนไม่สามารถเลื่อนได้อย่างสะดวก ซึ่งก็คงจะเป็นการเปรียบ
เทียบกรณีเดียวกันกับประตูไม้ห้องน้ำ โดนน้ำกระเด็นสาดทุกวัน จน
ทำให้เกิดความฝืดในการปิด - เปิด ได้เพราะเกิดการบวมน้ำ
ให้ท่านใช้กระดาษทรายเบอร์ 1 หรือเบอร์ 0 ขัดบริเวณด้าน
ข้างของตัวลูกเลื่อน(ไม่จำเป็นต้องไปขัดที่ด้านข้างของตัวแม่)
เพียงแค่ท่านขัดไม่กี่รอบ รางลูกเลื่อนนี้ก็จะกลับมาใช้งานเลื่อนได้
สะดวกอย่างปกติครับ ซึ่งผมแนะนำให้ใช้วิธีนี้ในการแก้ไขปัญหาที่
เกี่ยวกับความฝืดของรางไม้ทำยาลูกกลอนครับ เพราะว่าเป็นวิธีที่
แก้ไขได้ง่ายที่สุด
วิธีซ่อมรอยแตก หรือรอยชำรุดของไม้สักอย่างง่าย ๆ
สำหรับรางไม้สักทำยาลูกกลอนที่ผมผลิตขึ้นมา จะผลิตทำขึ้นมา
จากไม้สักเก่า อายุไม้เกินกว่า 20 ปี เป็นไม้ที่แห้งแล้ว หรือไม้สักบาง
รุ่นเป็นไม้จากบ้านไม้เก่าที่ถูกรื้อถอนแล้ว มีอายุยาวนาน ฉะนั้นรอย
แตกของไม้ รอยตะปู รอยบาก รอยบิ่น ฯลฯ ก็ย่อมจะต้องพบเห็นได้
เป็นธรรมดา ด้วยอายุของไม้เอง และเป็นไม้ที่ผ่านการใช้งานมาเป็น
เวลาพอควร
การผลิตชิ้นงานจำนวนมาก จึงต้องมีบ้างที่ชิ้นงานบางชิ้นที่ผลิต
ออกมา อาจจะไม่สมบูรณ์ มีรอยบาก รอยแหว่ง การซ่อมแซมแก้ไข
เพื่อให้ได้เนื้อไม้ที่ดูดีอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ จึงจำเป็น
ก็วิธีการง่าย ๆ และเรียกได้ว่าง่ายที่สุด ทุกท่านแทบจะสามารถ
ทำได้เองที่บ้านได้เลยคือใช้กาวร้อนเป็นตัวประสาน
ก็คือให้ซื้อกาวร้อนมาสักขวดเล็ก(ขวดละ 20 บาท) หยดหรือทาลง
ไปในจุดที่มีรอยบาก รอยแหว่ง หรือร่องรอยที่ไม่สมบูรณ์ ตามภาพ
ด้านบนและล่างนี้รอยบิ่น รอยแหว่ง มันเกิดอยู่ในพื้นที่ที่เล็กคือเกิด
อยู่ในพื้นที่ของฟันรางไม้ หรือบางทีรอยบาก รอยแหว่งเกิดอยู่
ในบริเวณพื้นที่ที่เล็กมาก ซึ่งมีเนื้อไม้บริเวณนั้นน้อย แต่ท่านผู้ใช้ไม่
ต้องการให้เห็นรอย สามารถทำได้ดังนี้คือหลังจากที่ท่านได้ทำการ
หยดกาวร้อนลงไปแล้ว ก็ให้หาขี้เลื่อยมาหยอดลงไปบริเวณกาวที่
หยด แล้วหยดกาวลงไปอีกที ใช้นิ้วแต่งให้เข้ารูป จากนั้นรอ 2 - 3
นาทีให้กาวแห้ง ไม้บริเวณที่ชำรุดคราวนี้ก็จะมีเนื้อไม้ใหม่เข้ามา
เสริม
จากนั้นก็ให้นำกระดาษทรายละเอียดมาค่อย ๆ ขัด ค่อย ๆ แต่ง
เพียงเท่านี้เองเนื้อไม้บริเวณนั้นก็จะประสานกันขึ้นมาเป็นเนื้อไม้
ปกติ ไม่สามารถสังเกตุเห็นได้ด้วยตาเปล่า หรือถึงแม้จะนำนิ้วมือไป
ลูบบริเวณนั้น ก็จะยังไม่สังเกตุได้อยู่ดี เพราะว่าเนื้อไม้จะถูกประสาน
เป็นเนื้อไม้เดียวกันไปเอง ลูบไม่สะดุด
หรือ หากว่าพื้นที่ที่มีรอยบาก รอยแหว่ง อยู่ในพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่
มีเนื้อไม้มาก เช่นตามภาพด้านล่าง เกิดรอยแหว่งที่ฐานไม้
ตรงนี้ก็ใช้วิธีเดียวกันครับ คือ หยดด้วยกาวร้อนลงไปรอจนกว่าจะ
แห้ง และใช้สิ่วค่อย ๆ แซะเนื้อไม้บริเวณนั้นออกเบา ๆ แล้วขัดด้วย
กระดาษทรายละเอียด เพียงเท่านี้เนื้อไม้บริเวณนั้นก็จะกลับมาเป็น
เนื้อไม้ปกติอีกครั้ง หรือจะหยดกาวร้อนลงไปแล้วใช้วิธีเดิม คือใช้ขี้
เลื่อยหยอดทับลงไป รอจนแห้งแล้วขัดออกก็ได้เช่นกันครับ ตรงนี้ก็
จะเป็นวิธีซ่อมแซมงานไม้สักอย่างง่ายที่สุด ไม่จำเป็นต้องนำชิ้นงาน
ไปที่ร้านซึ่งอาจจะทำให้ท่านมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
วิธีใช้งานรางตัดยาลูกกลอนอย่างละเอียด
เมื่อใช้งานจริง
ต้องวางรอยบากของแท่นกับตัวตัดให้อยู่ในแนวเดียวกัน
หรือตรงกันครับ ฟันในการตัดจึงจะถูกต้องอยู่ในแนวจริง
ดูตามคลิปตามนิ้วที่ชี้ครับ
ดูการใช้ในคลิป ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง ช่วงวินาที
ในคลิปที่ 12.40 ครับ
สนใจสั่งซื้อรางตัดยาลูกกลอน ผมอนันต์ครับ
Tel.0868910596
ครกบดยา, ครกตำยา, ครกทำยาไทย
หรือถ้าหากท่านกำลังมองหาครกบดยาอยู่ สอบถามทางผมได้เช่นกันครับ
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางให้เลือกคือ 10 ซม., 13 ซม., 14 ซม., 16.5 ซม., 20
ซม., 25 ซม.พร้อมไม้ตีด้วยครับ
ใหญ่สุดที่มีจำหน่ายเส้นผ่านศูนย์กลาง 30.5 ซม.พร้อมสากตำ
ชุดเส้นผ่านศูนย์กลาง 14 ซม.
ชุดเส้นผ่านศูนย์กลาง 16.5 ซม.
ชุดเส้นผ่านศูนย์กลาง 30.5 ซม.
เกร็ด
สำหรับครกบดยาที่เป็นเซรามิกลักษณะนี้หากจะเคลื่อน
ย้ายหรือขนส่ง จำเป็นต้องทำด้วยความระวังมาก ๆ มิเช่น
นั้นอาจจะทำให้สินค้าเกิดการแตกเสียหาย หรือชำรุดได้
ในกรณีที่จำเป็นต้องทำการขนส่งสินค้า ทางที่ดีที่สุดคือไป
ส่งให้กับมือผู้รับด้วยผู้ส่งเอง(ผมทำเช่นนี้) แล้วเปิดสินค้า
ให้ผู้รับตรวจสอบว่าสินค้าอยู่ในสภาพที่ดีไม่เสียหายหรือ
ชำรุด แต่ว่าหากจำเป็นต้องส่งสินค้าไปต่างจังหวัดซึ่งผู้ส่ง
ไม่สะดวกที่จะไป อันนี้พอจะทำได้หรือเป็นไปได้ที่จะส่งไป
ทางขนส่งครับ ซึ่งปัจจัยที่จะทำให้สินค้าปลอดภัยเมื่อเดิน
ทางถึงปลายทางก็จะคือ 1. การเลือกบริการขนส่งที่มี
มาตรฐานเชื่อถือได้ 2. การหีบห่อสินค้าที่มีคุณภาพ และ
3. การแกะสินค้าที่หีบห่อมานี้อย่างระวังและถูกวิธี
ซึ่งทั้งสามปัจจัยนี้มีความสำคัญพอกัน ผมลองส่งครก
บดยาเซรามิกขนาด 16 ซม.พร้อมสาก จำนวน 2 ชุดที่
ลูกค้าผมสั่งมาไปยังผู้รับปลายทางซึ่งอยู่ต่างจังหวัด ซึ่ง
ผมเองคงไม่สะดวกที่จะเดินทางไป ขั้นตอนแรกผมจำเป็น
ต้องเลือกใช้บริการขนส่งที่พอจะไว้ใจได้ว่าจะดูแลสินค้า
ได้ หรือหากเกิดปัญหาจะสามารถรับผิดชอบได้ผมถือครก
บดยาเซรามิกทั้งสองชุดแล้วเดินเข้าไปในขนส่งเอกชน
แห่งนี้อธิบายความประสงค์ และให้เขาช่วยแนะนำการห่อ
สินค้าคือครกบดยาทั้งสองชุดนี้
เจ้าหน้าที่เขาให้บริการดีมากครับ ดำเนินการห่อให้เลย
ซึ่งเป็นการห่อที่หนาและได้มาตรฐานได้ซึ่งหลังจากที่ห่อ
ออกมาแล้วก็จะเป็นไปตามรูปด้านล่างนี้ หีบห่อได้ทั้งกลม
และหนาหลายชั้นทีเดียว เรื่องการห่อสินค้านี้หากเป็น
สินค้าที่มีราคาแพงหรือแตกเสียหายง่ายแล้ว ผู้ส่งไม่ควร
อย่างยิ่งที่จะไปประหยัดครับ ไม่ว่าจะเป็นการประหยัดวัสดุ
ที่จะห่อหรือไปประหยัดค่าส่งหรือแม้กระทั่งกล่องบรรจุ ก็
ควรจะใช้กล่องบรรจุที่มีมาตรฐานไม่เล็กจนเกินไปหรือ
แทบจะพอดี ๆ กับสินค้า กรณีที่กล่องบรรจุแทบจะพอดีกับ
สินค้านั่นหมายถึงสินค้าของท่านก็จะอยู่ใกล้กับสิ่ง
แวดล้อมข้างนอกไปด้วย ซึ่งนั่นก็จะไม่เป็นผลดีหากเกิด
กรณีการตกหล่น กระทบกระทั่งอย่างไม่ตั้งใจ เช่นโดน
เหยียบ โดนกล่องของคนอื่นที่ใหญ่กว่าทับลงมา ถูกทำ
หลุดมือและกล่องตกลงมาอย่างไม่ตั้วใจ ที่ถูกต้องควรจะ
ทำอย่างถูกวิธีและแจ้งค่าส่งให้กับลูกค้าปลายทางทราบ
อย่างตรงไปตรงมาจะดีที่สุด อธิบายว่าสินค้าที่จะส่งนี้
บอบบางต้องหีบห่อให้ดีอย่างที่สุด ซึ่งค่าบริการในการส่ง
อาจจะเพิ่มขึ้นสักหน่อย ซึ่งนั่นมันก็ยังดีกว่ามาก ๆ หาก
เมื่อส่งไปแล้วสินค้าเกิดความเสียหายขึ้นมา ซึ่งความเสีย
หายของสินค้าจะนำมาซึ่งเรื่องยุ่ง ๆ อย่างคาดไม่ถึง อาทิ
เช่น ใครเป็นคนทำสินค้าเสียหายมาจากสาเหตุใด ต้อง
จัดหาสินค้ามาใหม่ ต้องหีบห่อใหม่ จัดส่งใหม่ เต็มไปด้วย
ภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจนบางทีแทบจะไม่เหลือกำไรหรือ
ยิ่งกว่านั้นเกิดการขาดทุน ซึ่งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ นี้คิดแล้วก็
คงจะมากกว่าค่าขนส่งและการหีบห่อที่ดีอย่างแน่นอน
จากนั้นบรรจุลงไปในกล่อง ซึ่งด้านล่างของกล่องปูด้วย
หนังสือพิมพ์เก่าหลาย ๆ ชั้นให้นุ่มที่สุด นำสินค้าบรรจุลง
กล่องและปิดด้านบนด้วยหนังสือพิมพ์เก่าหลาย ๆ ชั้น
สินค้านี้ตอนชำระเงินค่าส่งให้แจ้งความประสงค์ให้ติด
สติ๊กเกอร์สีแดงว่าระวังของแตกเสียหายด้วย ซึ่งหลังจาก
ที่ปลายทางลูกค้าของผมรับสินค้าผมได้แจ้งกับผู้รับแล้ว
ว่าให้แกะออกจากห่อด้วยความระวังและสินค้านี้ได้ห่อไว้
ด้วยบับเบิ้ลหลายชั้นทีเดียวให้ตัดออกอย่างระวังทีละชั้น
จนถึงชั้นในสุด ก็หลังจากที่ทำครบทุกขั้นตอนแล้วหาก
ไม่มีอะไรผิดพลาดสินค้าก็จะอยู่ในสภาพที่ปลอดภัยและ
สมบูรณ์ตามภาพข้างล่างที่ลูกค้าส่งมาให้ดูครับ
แต่ว่าถ้าหากว่า่ท่านมีเจตนาที่จะทำเมล็ดยาจำหน่าย
หรืออัดแคปซูลยาจำหน่ายอย่างจริงจังแล้ว
การใช้ครกแบบข้างบนซึ่งเป็นครกเซรามิกอาจจะไม่ค่อยเหมาะสมนักครั
บ เพราะว่าครกแบบข้างบนเจตนาอาจจะแค่บดยา หรือบดตัวอย่างยา
นำยามาโขลกได้แต่ควรจะโขลกอย่างระวัง
ท่านจะโขลกให้แรงเหมือนตำน้ำพริกไม่ได้
เพราะมิเช่นนั้นแล้วจะทำให้ครกแตกได้
วิธีทางอีกหนึ่งทางเลือกคือใช้ครกที่ทนทานสักหน่อย
และทำด้วยวัสดุที่ไม่เป็นอันตรายหรือไปมีผลกับตัวยาที่ใช้
ซึ่งในกรณีเช่นนี้จะต้องเป็นครกที่ำทำด้วยทองเหลืองครับ
ออกแบบมาให้บดยา ตำยาไทยโดยเฉพาะ น้ำหนักทั้งชุด ครก + สาก
ประมาณ 2.2 กิโลกรัม ลักษณะเป็นดังนี้ครับ
ฐานของครก
ถ้าจะให้ดีควรจะทำที่รองด้วยจะได้แข็งแรงและไม่ขยับเขยื้อน
ไม้ตีจะมีโกร่งกันไม่ให้ยากระเด็นออกมาด้วย
ด้ามจะทำด้วยไม้ มีโกร่งกันกระเด็น ส่วนหัวตำเป็นทองเหลือง
ขนาดโดยประมาณ 1 ฟุต เศษ ๆ
หรือถ้าท่านต้องการเป็นครกแสตนเลสพร้อมสากแสตน
เลสเช่นกัน
ครกบดเครื่องปั้นดินเผาโบราณ, ครกบดวัตถุโบราณ
สนใจสั่งซื้อครกบดยา, ครกตำยา, ครกทำยาไทย
ผมอนันต์ครับ Tel.0868910596
หลังจากที่ท่านตำยาแล้วสิ่งที่ควรทำต่อไปเพื่อที่จะให้อัดผ
งยาใส่แคปซูลได้ หรือนำผงยาไปปั้นเพื่อตัดเมล็ดได้
ก็คือท่านควรจะร่อนยาหรือกรองยาสักรอบเป็นอย่างน้อย
ครับ อุปกรณ์ที่จะใช้กรองยาก็คือตะแกรงร่อนยาครับ
ผมถ่ายเทียบให้ดูสองขนาดและเทียบกับเครื่องโทรศัพท์บ้
านครับ
ตะแกรงร่อนยานี่จะมีความถี่หรือความห่างไม่เท่ากันครับ
รวมทั้งเส้นผ่านศูนย์กลางของมันด้วย
ถ้าถี่มากตัวเลขจะมากเช่น ถ้าความถี่ตะแกรงเป็น 100
หมายถึงละเอียดสุด และจะลดหลั่นกันไปเรื่อย ๆ ครับ
สรุป ตะแกรงที่ผมมีมี 2 ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง คือ 7
นิ้ว และ 9 นิ้ว
ส่วนความถี่ของตะแกรงที่ให้เลือกมี 4 ขนาดครับ
คือ 100, 80, 60, 30 ตัวเลขมากหมายถึงถี่ที่สุดครับ
ขนาดตะแกรงความถี่ 80 คนใช้มากสุดครับ
วัดขนาดของช่องห่างตะแกรงแต่ละขนาดเมื่อเทียบกับ
ไม้บรรทัด
ตะแกรงเบอร์ 100
ตะแกรงเบอร์ 80
ตะแกรงเบอร์ 60
ตะแกรงเบอร์ 40
Tips
น้ำหนัก 1 ตำลึงยาจีนมีน้ำหนักเท่ากับ 37.5 กรัม
น้ำหนัก 1 ตำลึงยาไทยมีน้ำหนักเท่ากับ 60 กรัม
บทประยุกต์ตะแกรงร่อนยา หรือตะแกรงที่ใช้ในการร่อนสารทุกชนิด
ก็คือว่า สำหรับตะแกรงร่อนไม่ว่าท่านผู้ใช้จะนำไปร่อน
อะไรก็ตามแต่ เช่น ร่อนยา ร่อนฝุ่นผง ร่อนสิ่งของที่
ละเอียดหรือหยาบก็ตามแต่ หากว่ามันไม่มีตะแกรงชนิด
สำเร็จรูปจำหน่าย อาจจะเนื่องจากความถี่ของตะแกรง
สำเร็จรูปรุ่นนั้น ๆ เป็นสิ่งที่จำหน่ายได้ยากหรือจำหน่ายได้
ช้า ผู้ผลิตจึงไม่อยากจะผลิตออกมาจำหน่าย
แต่หากว่าท่านเป็นผู้ใช้และจำเป็นต้องใช้ ตรงนี้หาก
อยากจะได้ขนาดตะแกรงสำเร็จรูปที่มีขนาดตามที่ต้องการ
จริง ๆ ก็คงต้องสั่งตะแกรงจากนอก ซึ่งก็จะมีราคาสูง หรือ
มีระยะเวลาในการสั่งที่ค่อนข้างนานถึงนานมาก ยิ่งในช่วง
ที่มีการระบาดของ Covid 19 แล้วการส่งสินค้าก็จะยิ่งนาน
ขึ้นหรือบางครั้งไม่สามารถแม้แต่จะส่งจากต่างประเทศ
เพื่อเข้าประเทศได้
ตรงนี้ หากท่านจำเป็นต้องใช้งานจริง ๆ อันนี้พอจะ
สามารถแก้ไขปัญหาได้ครับ เพราะว่าผมพอจะมีจำหน่าย
ตะแกรงโลหะ(มีแทบจะทุกขนาด ทุกเบอร์เลย) จำหน่าย
เป็นเมตรครับ คือดึงออกมาเป็นเมตรผู้ใช้งานต้องการให้
ตัดกี่เมตรก็ได้ หน้ากว้างของแผ่นตะแกรงก็โดย
ประมาณ 1 เมตร ท่านผู้ใช้สามารถนำไปประยุกต์ทำขอบ
ได้ครับ
ตะแกรงสำเร็จรูปที่ผมมีจะเป็นขนาด 40, 60, 80
และ 100 ตะแกรงที่มีขนาดน้อยกว่า(หยาบกว่า) 40 หรือ
มีขนาดที่มากกว่า(ละเอียดกว่า) เบอร์ 100 มีมากครับ เลย
จนไปถึงเบอร์ 400
สนใจสั่งซื้อตะแกรงร่อนยา
ผมอนันต์ครับ Tel.0868910596