ยูเอฟโอตกที่ประเทศเม็กซิโก
เรื่องนี้จริง ๆ เกิดขึ้นมานานแล้วครับ แต่มันมาดังเอาเมื่อปี 2535
เมื่อเหล่าสาวกผู้ติดตามเรื่องยูเอฟโอ เปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมาในสหอเมริกาและยุโรป
คือเป็นเรื่องที่อเมริกาได้ยูเอฟโอมาลำหนึ่ง
โดยใช้ปฎิบัิติการทางทหารขนมาจากเขตแดนที่อยู่ในประเทศเม็กซิโก
มันเป็นทะเลทรายที่อยู่ในประเทศเม็กซิโกครับ ที่ยูเอฟโอไปตก ดูเหมือนจะอยู่เขตที่เรียกว่า
โคยาเม(Coyame) ชิฮวาฮวา (Chihuahua)
มันเป็นเรื่องของความสะเพร่าของคนนอกโลกครับ
ดูเหมือนกับว่าเหตุการณ์นี้ฝรั่งเรียกกันว่า
"Mexico's Roswell,"
ผู้ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ไม่ขอเปิดเผยนามของเขานะครับ แต่มันเป็นเรื่องจริงครับ
เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 25 สิงหาคม 2517 เรดาห์ตรวจการเคลื่อนไหวของอเมริกา
ตรวจจับการเคลื่อนไหวของบางสิ่งบางอย่างได้
โดยมันเคลื่อนที่เข้ามาในน่านฟ้าของอเมริกา
โดยมีทิศทางการเคลื่อนที่มาจากอ่าวเม็กซิโกครับ ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งคือ
ความเร็วของวัตถุที่ตรวจจับได้นี้ มันทำความได้เร็วมากถึง 2,500 ไมล์ต่อชั่วโมง(
ซึ่งในเวลาขณะนั้นเมื่อ 40 ปีก่อน ยังไม่มีอากาศยานใด ๆ
บนโลกทำความเร็วขนาดนั้นได้ครับ)
มันอยู่ที่ระดับความสูง 75,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเลครับ
ซึ่งถ้าหากว่าวัตถุนี้ยังคงเคลื่อนที่ไปในทิศทางนี้เรื่อย ๆ ละก็ มันก็จะเข้าเขต Corpus
Christi, รัฐ Texas อย่างแน่นอน
แรกเลยเจ้าหน้าที่เรดาห์เข้าใจว่าเป็นดาวตก ดาวหาง หรืออุกาบาต อะไรสักอย่าง
เอ๊ะ แต่ว่าเดี๋ยวก่อนวัตถุนี้ เป็นระดับความสูงลงมาที่ 45,00 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล
แล้วก็ลงมาที่ 20,000 ฟุต แล้วเริ่มลดระดับความเร็วลงเหลือ 1,900 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่ง ณ
เวลานี้เจ้าหน้าที่เรดาห์ก็ทราบแล้วละว่ามันคงไม่ใช่อุกาบาตอย่างแน่นอน
เพราะมันเปลี่ยนทั้งระดับความสูงและลดความเร็วลงได้ในเวลาเดียวกัน
สุดท้ายวัตถุดังกล่าวลดระดับลงเรื่อย ๆ จนกระทั่ง เรดาห์ภาคพื้นดินตรวจจับไม่ได้
สุดท้ายเรดาห์ตรวจจับมันได้อีกครั้งว่า มันกำลังเคลื่อนที่เข้าไปในเขตแดนประเทศเม็กซิโก
ห่างไปจากรัฐเท็กซัส Brownsville แค่ 40 ไมล์เอง
สุดท้ายเจ้าหน้าที่เรดาห์ก็ตรวจจับการเคลื่อนที่ของวัตถุนี้ไปเรื่อย จนกระทั่งพบว่า
มันหายไปจากหน้าจอ บริเวณที่หายไปอยู่ในส่วนของทะเลทราย Koyame
เจ้าหน้าที่เขาก็เฝ้ารอแล้วรออีก ก็ไม่ปรากฎว่าจะตรวจจับการเคลื่อนไหวได้
52 นาทีต่อจากนั้นมีรายงานการหายไปของเครื่องบินเล็กพลเรือนจากจอเรดาห์
เครื่องบินเล็กลำนี้บินขึ้นจากสนามบินเอลปาโซ รัฐ Texas โดยมีจุดหมายปลายทางที่กรุง
เม็กซิโก ซิตี้ประเทศเม็กซิโก ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะไปถึงหูของ CIA ในเวลาเดียวกันนั้นเอง
หน่วยข่าวกรองของอเมริกา เริ่มดักคลื่นของทางฝั่งประเทศเม็กซิโก
พบว่าทางเม็กซิโกเิริ่มต้นที่จะค้นหาเครื่องบินเล็กที่หายไปแล้ว
อธิบายก่อนครับว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนกลางคืนครับ จนกระทั่งวันรุ่งขึ้นประมาณ 10.30
น. มีรายงานจากฝั่งประเทศเม็กซิโกว่า พบว่าเครื่องบินที่ตก
และยังพบอะไรบางอย่างที่แปลกเอามาก ๆ ด้วย ดูเหมือนมันจะห่างไปประมาณ 2-3 ไมล์
แต่วัตถุที่ว่าแปลกเอามาก ๆ นี่มันแปลกจริง ๆ ครับ คือมันเป็นวัตถุกลม ๆ
มันดูเหมือนกับว่าจะไม่มีรอยต่อรอยตะเข็บอะไรเลยครับ
ที่แปลกกว่านั้นอีกคือมันไม่มีทั้งประตูและหน้าด้วย
มันเสียหายโดยบุบไปแค่เล็กน้อยเองครับ น่าจะเกิดจากการปะทะกับของแ็ข็ง
หรือไม่งั้นก็มาจากการหล่นลงมาจากที่สูง
สุดท้ายการสนทนาทางฝั่งเม็กซิโกก็เงียบไป เพราะถูกสั่งให้ Shut-up ขณะเดียวกัน
อเมริกาซึ่งจ้องเรื่องนี้ตาเป็นมันอยู่แล้ว ก็ปรึกษากับทางการของเม็กซิโกครับ
โดยเสนอความช่วยเหลือต่าง ๆ ให้
จะขอจัดทีมเข้าไปค้นหาช่วยเหลือโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ แต่ทางเม็กซิโก say No!
สามทุ่มของวันที่ 26 สิงหาคม 2517
หน่วยข่าวความมั่นคงของอเมริกาได้ฟอร์มทีมงานค้นหาขึ้นมา ทั้งคนเฮลิคอปเตอร์ฮิวอี้ 3
ลำ โดยทาสีเฮลิคอปเตอร์เป็นสีพรางทะเลทรายและไม่ทำเครื่องหมายใด ๆ บนลำเครื่อง
ดูเหมือนจะมีเฮลิคอปเตอร์ลำใหญ่อีกลำไปด้วยกับภารกิจนี้
ทางอเมริกาดูเหมือนจะทำทุกอย่างทุกทางเพื่อที่จะให้ได้ยูเอฟโอลำนี้
เขาเข้าไปในเขตแดนประเทศเพื่อนบ้านโดยทราบตำแหน่งที่แน่นอนแล้วว่า
เครื่องยูเอฟโออยู่ ณ ที่ใด จากการดักฟัง ตอนไปถึงที่เกิดเหตุ
พบว่ายูเอฟโอลำนั้นได้ถูกทหารเม็กซิกันบรรทุกขึ้นรถบรรทุกเรียบร้อยแล้ว
และอยู่ในระหว่างการเคลื่อนย้าย แต่น่าแปลกก็คือ
ขบวนบรรทุกกลับหยุดอยู่กลางทะเลทราย
ทหารเม็กซิกันที่อยู่ในขบวนบรรทุก เสียชีวิตหมดครับ น่าจะมาจากการได้รับรังสี
หรือเชื้อโรคชีวภาพบางอย่างของยูเอฟโอลำนี้ ไม่ต้องรอช้า
หน่วยข่าวกรองกลางอเมริกาสั่งให้หน่วยค้นหาซึ่งใส่ชุดสูทป้องกันรังสีและเชื้อโรคเป็นอย่า
งดี ทำการเคลื่อนย้ายยูเอฟโอลำนี้ทันที
โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ยกยูเอฟโอไปใส่ขบวนรถสิบล้อที่เตรียมมาเพื่อขน
โดยอีกทีมก็เบี่ยงเบนจุดสนใจโดย
นำซากเครื่องบินเล็กที่หล่นพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่เม็กซิกันที่เสียชีวิตมารวมกันและทำการวางร
ะเบิด ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง
ทุกอย่างในที่เกตุเหตุก็เรียบร้อยเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
เล่ากันว่ายูเอฟโอที่ยึดมาได้นี้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางโดยประมาณ 16 ฟุต
พร้อมทั้งมีความสูงอยู่ที่ 5 ฟุต
รูปร่างละ้ม้ายคล้ายคลึงกับจานรองถ้วยกาแฟสองอันมาประกบกัน
สีของเครื่องเป็นสีเงินมันโดยที่ไม่ประตูหรือหน้าต่างใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่มีท่อไอเสียด้วย
มีรอยบุบจากการปะทะหรือตก
ท่านสามารถเข้าไปชมเรื่องราวทั้งหมดได้ที่นี่ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=D9No5FWRr9o
วิเคราะห์กันดีกว่าครับ
ท่านครับการปฎิบัติตามกฎการจราจรในการขับขี่เป็นสิ่งที่สำคัญ
เพราะไม่ว่ายานพาหนะที่เดินทางสัญจรนั้น ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ
ไม่ได้มีลำเดียว หรือคันเดียว ในการการเดินอากาศแล้ว พื้นที่ในอากาศที่ว่างเปล่า
ไม่ได้ว่างเปล่าจริง เพราะมันได้ถูกตีเส้น จับจองเส้นทางการเดินอากาศอยู่แล้ว บนอากาศ
ไม่มีสัญญาณไฟแดงไฟเขียว ไม่มีป้ายห้ามหรือป้ายบังคับ
เพราะฉะนั้นการปฎิบัติตามกฎการจราจรทางอากาศจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ฉะนั้นการเปลี่ยนเส้นทางการบิน
หรือจะทำอะไรก็ตามแต่ต้องขออนุญาตกับวิทยุภาคพื้นดินกันก่อน
และต้องรอการอนุญาตเพื่อที่จะเดินทางในเส้นทางนั้นได้